Log in to access resources reserved for MDRT members.
Q&A: Vera
Q&A: Vera

พ.ย. 01 2565 / Round the Table Magazine

Q&A: Vera

Vera มอบการคุ้มครองที่เหมาะสมและการวางแผนทางการเงินแก่ลูกค้าตามช่วงชีวิตของพวกเขา

หัวข้อที่ครอบคลุม

Vera มอบการคุ้มครองที่เหมาะสมและ การวางแผนทางการเงินแก่ลูกค้าตามช่วงชีวิตของพวกเขา

แต่ความต้องการเหล่านั้นจะเปลี่ยนไปตามอายุ เธอแบ่งปันวิธีการของเธอในการกำหนดความคุ้มครองและแผนทางการเงินที่เหมาะสมสำหรับทุกช่วงชีวิตของลูกค้า

คุณแบ่งช่วงชีวิตของลูกค้าอย่างไร

เมื่อพิจารณาถึงช่วงเวลาทางการเงินในชีวิตมนุษย์ตั้งแต่อายุ 0 ถึง 80 ปี มีช่วงที่ไม่เกิดผลซึ่งไม่มีรายได้ ช่วงอายุระหว่าง 0 ถึง 20 คือช่วงที่ผู้คนเล่นและเรียนรู้ และช่วงอายุระหว่าง 61 ถึง 80 คือช่วงที่ถึงเวลาเกษียณ นอกจากนี้ยังมีช่วงเวลาประสิทธิผลเมื่อผู้คนทำเงิน คือระหว่าง 21 ถึง 40 ซึ่งมักเรียกกันว่าวิกฤตหนึ่งส่วนสี่ของชีวิต และระหว่าง 41 ถึง 60 ซึ่งเรียกว่าอายุเติบโตเต็มที่ทางการเงิน

คุณสร้างแผนทางการเงินสำหรับลูกค้าในทุกช่วงของชีวิตอย่างไร

ในช่วงอายุระหว่าง 21 ถึง 40 ปี ลูกค้ามักจะเริ่มงานหรือธุรกิจครั้งแรก ซื้อรถคันแรก ซื้อบ้านหลังแรก แต่งงาน ย้ายที่ทำงาน มีลูก และเริ่ม รับผิดชอบในการให้เงินรายเดือนแก่ผู้ปกครอง ดังนั้นนอกจากการประกันสุขภาพแล้ว ลูกค้าต้องมีทุนประกันโรคร้ายแรงและกรมธรรม์ประกันการเสียชีวิตขั้นพื้นฐาน โดยแต่ละกรมธรรม์มีผลประโยชน์ขั้นต่ำ 60 เท่าของรายได้ต่อเดือน ฉันมักจะเรียกข้อเสนอนี้ว่าการรับประกันวิถีชีวิต โดยมี เป้าหมายว่าวิถีชีวิตของครอบครัวจะไม่ลดลงหากมีความเสี่ยงต่อชีวิตเกิดขึ้น

สำหรับช่วงอายุ 40 ถึง 60 ปี ข้อเสนอที่เหมาะสมคือกองทุนถาวร โดยถือว่าลูกค้ามีฐานะทางการเงินที่มั่นคง เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยสำหรับโรคร้ายแรงและจำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นพื้นฐาน ซึ่งแต่ละจำนวนเงินเอาประกันภัยอาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นหากฝากไว้ในเครื่องมือ การลงทุน เช่น เงินฝากประจำที่มีดอกเบี้ย ผลตอบแทนรายเดือนจะเหมือนกับรายได้ของผู้เอาประกันภัย ซึ่งสามารถนำไปใช้เลี้ยงครอบครัวได้ ในขณะที่เงินต้นยังคงปลอดภัยในธนาคารในฐานะกองทุนถาวรสะสม

คุณจะโน้มน้าวผู้มุ่งหวังวางแผนอนาคตอย่างรอบคอบได้อย่างไร

การเป็นเศรษฐีไม่ใช่แค่การรู้วิธีหาเงินแต่เป็นการเข้าใจวิธีจัดการเงินด้วย มีคำกล่าวที่ชาญฉลาดว่า “ความล้มเหลวในการวางแผนหมายถึง การวางแผนที่จะล้มเหลว” การขายผลิตภัณฑ์ไม่เกี่ยวข้องกับที่ปรึกษาอีกต่อไป เราต้องเปลี่ยนไปใช้การขายแนวคิด แนวทางนี้หมายความว่างานของเราไม่ใช่การเสนอจำนวนเงินเอาประกันภัยหรือจำนวนเงินประกันที่จ่ายไปตายตัว แต่เป็นการอธิบายว่าเงินประกันชีวิตหลายพันล้านที่ ผู้เอาประกันภัยสามารถทำอะไร เพื่อชีวิตของครอบครัวลูกค้าได้บ้าง