เจ็ดปีก่อน ผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลีย ในหลักสูตรปริญญาตรีด้านกฎหมายและการพาณิชย์ – และก็แน่นอน ความยิ่งใหญ่ของชาวเอเชีย เป็นปริญญาหลักสูตรห้าปี และเมื่อเรียนหลักสูตรปริญญาไปได้สี่ปีครึ่ง ผมกลับมาบ้านและบอกกับพ่อแม่ของผมว่า แล้วให้คุณลองจิตนาการว่าคุณก็อยู่ที่นั่นด้วย ผมบอกท่านทั้งสองว่า "ผมรักคุณพ่อคุณแม่มาก และผมมีเรื่องบางอย่างที่จะบอก ผมได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเวลานานแล้ว ผมรักคุณพ่อคุณแม่มาก - คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมนะ พ่อครับ แม่ครับ ผมไม่อยากจะเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยอีกแล้ว "แม่ของผมเป็นคนใจอ่อน เธอร้องไห้ ส่วนพ่อ อ่า คุณพ่อชอบบรูซลี ผมจำได้ว่าท่านนั่งอยู่บนโซฟาและได้ลุกขึ้นพูดว่า "ลูกพูดเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรหรือ" ผมพูดว่า "พ่ออย่า –ใจเย็นๆ ก่อน ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่ผมต้องบอกพ่อ พ่อจำที่ดินที่พ่อซื้อในปี 2001 และบอกว่าเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ลูกได้ไหม ลูกอยากจะขายมันทิ้งไป และเอาเงิน $100,000 ดอลลาร์ ไปลงทุนในธุรกิจอินเทอร์เน็ตเพื่อสอนเทคนิคการเล่นกล" ผมเพียงแค่อยากจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราทุกคนอยู่ในหน้าเดียวกัน ณ จุดนี้ ผมเพิ่งบอกกับชายชาวเวียดนามอายุ 60 ปี ที่เคยผ่านศึกสงครามและกำลังเดินทางไปประเทศออสเตรเลียสองสัปดาห์เพื่อพาลูกชายของเขาไปศึกษาต่อที่นั่น ซึ่งลูกชายของเขาต้องการเป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์

คุณคงจะรู้ว่า เวลาคุณโกรธจัดแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับตัวเอง พ่อพาคุณแม่แล้วเดินเข้าไปในห้องครัว เมื่อถึงตอนนี้ ในฐานะที่ยังเป็นเด็กหนุ่ม ผมคิดหาเหตุผลแบบนิรนัย ผมสรุปได้ว่าอย่างไร ผมคงตายแน่ๆ - มีดอยู่ในห้องครัว ผมเป็นคนค่อนข้างจะนิ่ง และผมไม่สติแตก จากนั้น ผมก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบกัน และความคิดและจินตนาการของผมก็วิ่งเตลิดเปิดเปิงไป พวกเขากำลังพูดเรื่องอะไรกันหรือ พ่อกำลังปลอบใจคุณแม่ของผม และผมคิดว่าพ่อพูดกับเธอว่า "ไม่ต้องห่วงหลอก ไม่ต้องคิดอะไรมาก เราจะฆ่าเด็กคืนนี้ และบางทีเราอาจจะทำอีกครั้งคืนนี้ "

เพื่อเพียงให้พอรู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรในเวลานั้น พี่ชายของผมเป็นนักศึกษาเกรดหนึ่งในมหาวิทยาลัย และตอนนี้เขากำลังศึกษาวิชาแพทย์อยู่ที่มหาวิทยาลัย ดังนั้น เป็นเวลานานมากทีเดียวที่พ่อของผมรู้สึกเหมือนว่าเขามีลูกชายเพียงคนเดียวเท่านั้น พ่อผมเป็นลูกชายคนโตของพี่น้องเจ็ดคนในครอบครัว และเขาเป็นคนตัดสินใจที่จะหนีออกจากประเทศเวียดนามเพื่อสร้างครอบครัวใหม่ให้กับลูกๆ ที่จะเกิดมา นั่นเป็นผู้ชายที่พ่อเป็น แล้วพ่อก็ออกมาและพูดอะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อน พ่อพูดว่า "ลูก พ่อไม่ได้เสี่ยงชีวิตพ่อ ไม่ได้เสี่ยงชีวิตลุงป้าน้าอาของลูก และที่สำคัญที่สุดคือแม่และปู่ย่าตายายของลูก – พ่อไม่ได้เอาชีวิตทุกคนมาเสี่ยงเพื่อสร้างบ้านใหม่แล้วก็บังคับให้ลูกทำในสิ่งที่ลูกไม่ต้องการทำ ลูก พ่อสร้างบ้านหลังใหม่นี้ พ่อเสียสละทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ลูกต้องการจะทำ และถ้าจะเป็นการเล่นกล.....” พ่อหยุดไปพักใหญ่ๆ “ . . ก็ตามใจลูก" และสิ่งที่พ่อพูดแล้วกระทบใจผมมากที่สุดคือ “ลูก ในชีวิตนี้ รับปากพ่ออย่างหนึ่ง ไปให้ถึงที่สุดที่ลูกอยากจะไป และตราบเท่าที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ พ่อจะยืนอยู่เคียงข้างลูกเสมอไป"

และผมก็ได้ทำการทดสอบทฤษฎีของผม ผมเริ่มต้นด้วยเรื่องนี้เพราะผมตระหนักดีว่าผมจะไม่เป็นอยู่ตามที่ผมเป็นในวันนี้ ผมจะไม่สามารถประสบความสำเร็จในสิ่งที่ผมได้ประสบความสำเร็จ ถ้าไม่ใช่เพราะการสนับสนุนจากครอบครัวของผม ผมต้องการเรียกความสนใจให้รู้ถึงความสำคัญของครอบครัวก่อน พ่อมีปรัชญาของพ่อที่ฝังลึกอยู่ในตัวผมตลอดชีวิต พ่อพูดกับผมว่า "ลูก ความจริงที่ลูกยังมีชีวิตอยู่นั้นก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ยังไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องสงคราม กระสุนสยองขวัญที่บินว่อนอยู่ในอิรัก ลูก ความจริงก็คือ: ถ้าแม่และพ่อไม่ได้พบกัน ก็คงจะไม่มีลูก – ลูกคงจะไม่ได้เกิดมา ลองคิดย้อนกลับไปดูลูก ถ้าปู่ย่าตายายไม่เคยได้พบกัน ก็คงไม่มีลูก ถ้าเราหวนกลับไปดูในช่วงอายุคนประมาณ 50,000 ชั่วอายุคน ถ้ามนุษย์ถ้ำกินผลไม้พิษแล้วตายไป ก็คงไม่มีมนุษย์ที่สืบทอดต่อเนื่องกันมา และก็คงไม่มีพวกเรากันที่นี่ ความจริงที่ว่า ยังมีพวกเราอยู่นั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าคิด มันได้ใช้เวลาหลายล้านปีและเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายเพื่อให้ลูกได้มีชีวิตอยู่เวลานี้ หลายล้านปีและตอนนี้ลูกก็ได้มาอยู่ที่นี่ เพื่อจะอยู่ตามอายุเฉลี่ย 86 ปี 87 ปี เมื่อลูกเปรียบเทียบกันทั้งสองสิ่ง ลูกจะมีชีวิตอยู่เพียงหนึ่งนาทีและลูกก็ได้ใช้ชีวิตไปแล้ว 20 วินาที ที่เหลืออีก 40 วินาที ลูกจะทำอะไรกับมันหรือ ลูกต้องกระโดดให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ในชีวิต" นั่นคือพ่อของผม

และแม่ก็ได้มีบทเรียนหนึ่งให้ผมด้วยเช่นกัน แม่เป็นคนใจบุญ และผมรักแม่ แม่พูดว่า "ลูก ลูกไม่มีอะไรที่มีความเป็นพิเศษเลย" ไม่ได้เป็นนักพูด แน่นอนที่สุด "ดังนั้น ลูกไม่มีอะไรที่เป็นพิเศษ ไม่มีจุดเด่นอะไรในตัวลูกเลย สิ่งเดียวที่เป็นสิ่งน่าทึ่งก็คือบทเรียนที่ทำให้ลูกเป็นตัวตนของลูก และลูก เมื่อลูกขึ้นเวทีไปบรรยาย จำไว้เสมอว่า – อย่าลืมแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวว่า: อย่าปล่อยให้ตัวเองนิ่งอยู่กับแท่น แต่จงเอาบทเรียนที่ได้ร่ำเรียนมาตั้งเป็นแท่น เพราะว่าถ้าลูกสามารถเรียนรู้ได้ คนอื่นๆ ก็เรียนรู้ได้" แม่ทำให้ผมเป็นตัวของผมเอง

และเวลานี้ ผมอยากจะเล่าถึงบทเรียนสามบทที่มีอิทธิพลเหนือชีวิตของผมมากที่สุด ที่ทำให้ผมสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับอุตสาหกรรมที่ไม่เคยได้รับการคิดค้นมาเป็นเวลานาน ในโลกของการเล่นกล ซึ่งเป็นสามบทเรียนที่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิต อาชีพและโลกส่วนตัวของผมไปอย่างสิ้นเชิง และผมรู้ว่า ถ้าคุณทำตามหลักการและบทเรียนเหล่านี้ คุณก็สามารถจะเปลี่ยนชีวิตของคุณได้เช่นกัน สิ่งเดียวที่จะต่างกันก็คือ ในฐานะนักวิทยากร ผมใช้การเล่นกลคำอุปมาของผม และก็ถึงเวลาแล้วที่ผมจะเริ่มต้นพูด

และคุณคงกำลังคิดว่าVinh แล้วคุณได้ขายทรัพย์สินที่จะนำมาลงทุนหรือไม่ คุณพ่อได้ให้คุณขายมันไปหรือไม่ เกิดอะไรขึ้นกับมันหรือ คำตอบคือ ใช่ เราได้ขายมันไป เป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตของผม และเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางของผม – เพื่อสร้างธุรกิจออนไลน์ ทำการสอนเทคนิคการเล่นกล ผมภูมิใจมากที่ได้ยืนอยู่ต่อหน้าคุณในเวลานี้ และสอนเทคนิคการเล่นกลออนไลน์ เราเพิ่งได้สอนนักเรียนไปกว่า 39,000 คนจากทั่วโลก และที่จริงแล้ว ก็ได้รับรางวัล SA Young Entrepreneur แห่งปีของออสเตรเลียด้วย ดังนั้น คุณพ่อได้กลับมามีลูกชายสองคนอีกครั้ง กลับมาที่เกม ในการเดินทางครั้งนี้ ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายที่อยากจะมาแบ่งปันกับพวกคุณ

บทเรียนแรกคือสิ่งที่ผมเรียกว่า "มุมมอง" ผมต้องการใครสักคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับการเล่นกลระยะไกล้มาก่อน กรุณายกมือขึ้นเพื่อผมรู้ได้ว่าคุณอยู่ที่ไหน นี่เป็นเกมที่เล่นง่ายมากที่เรียกว่า "มือข้างไหนที่มีกระดาษทิชชู่" นี่ ผมมีกระดาษทิชชู่นี้ และวางอยู่ข้างหลังของผม และอยากจะถามคุณ Jody ว่า มือข้างไหนมีกระดาษทิชชู่ [เธอชี้ไปที่มือซ้าย] ลองอีกครั้ง - อยู่ที่มือข้างไหน [เธอเดาถูกอีกครั้ง] ดี ยอดเยี่ยม ตอนนี้มาลองดูอีกครั้ง [เขาโยนกระดาษทิชชู่ไปข้างหลังเธอ แต่เธอไม่ได้เห็นมัน] เราจะลองใหม่อีกครั้ง Jody อย่ากระพริบตาคุณเชียวนา [เธอเห็นว่ามันอยู่ที่มือขวา] ดี ตอนนี้คุณเสมอกัน นี่เป็นตัวตัดสิน เขาโยนมันไปที่ข้างหลังเธอ เธอเลือกเป็นมือซ้ายของเขา] อะไรน้า มันไม่มีแล้ว เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อที่สุด Jody ผมเพียงแค่อยากจะแสดงให้คุณเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณแค่มองไปข้างหลังคุณ [มีกระดาษทิชชู่สองแผ่นอยู่ข้างหลังเก้าอี้ของเธอ] คุณจะเห็นว่าผมโยนมันข้ามหัวคุณไป

เป็นกลง่ายๆ ของเด็กๆ แต่ก็ขอขอบคุณมาก คำถามคือ ทำไมผมถึงทำอย่างนี้ คนมักจะถามผมว่า "Vinh การเล่นกลคืออะไร มันเป็นอะไรกันแน่" เล่นง่ายหรือไม่ แล้วอะไรคือการเล่นกลหรือ การเล่นกลเป็นเพียงปัญหาที่คุณไม่สามารถแก้ได้ มันก็เป็นเพียงแค่นั้น ดังนั้น สำหรับ Jody ปัญหาอะไรหรือที่เธอไม่สามารถแก้ได้ เธอคิดว่า กระดาษทิชชูอยู่ที่ไหนหรือ ผู้ชายคนนี้ก็แปลกดี แต่เธอก็ไม่รู้ว่ากระดาษทิชชู่อยู่ที่ไหน และเธอจะไม่รู้ไปตลอดชีวิตของเธอ เราอาจจะทำซ้ำอีก 10 ครั้งและเธอก็ยังคงไม่รู้ เธอไม่สามารถแก้ปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม ทุกๆ คนในห้องนี้สามารถทำได้ ทำไมหรือ มุมมองนั่นเอง คุณมีมุมมองที่แตกต่างกัน เห็นไหม ในฐานะที่คุณเป็นผู้ประกอบการ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชีวิตของผม ทุกครั้งที่ผมประสบปัญหาและสาเหตุที่ผมไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก็เพราะว่า ผมตกเป็นเหยื่อของความคิด ผมได้มองหาปัญหาจากเฉพาะมุมมองหนึ่ง - มุมมองเดียวของตัวผมเอง - และผมคิดว่าตัวเองไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ถ้าผมได้ถามคนอื่นและได้รับมุมมองใหม่หมด ผมก็จะตระหนักได้ว่า แนวทางการแก้ปัญหามันชัดเจน แล้วคุณก็อารมณ์หงุดหงิดเพราะวิธีการแก้ปัญหานั้นมันง่ายมาก แต่ที่จะพูดก็คือ: มุมมองมีพลังอำนาจ การทำงานร่วมกันเป็นอำนาจ ผู้คนจะเห็นสิ่งต่างๆ ภายในอุตสาหกรรมของคุณที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้ ความร่วมมือกันไม่ได้เป็นเพียงภายในอุตสาหกรรมของเราเองเท่านั้น การทำงานร่วมกันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราจึงทำงานร่วมกันกับอุตสาหกรรมภายนอกของเรา และนั่นคือที่มาของนวัตกรรม ในฐานะที่เป็นนักวิทยากร ผมต้องการจะพิสูจน์ในสิ่งที่ผมพูด ผมไม่ต้องการเพียงแค่พูด ผมต้องการพิสูจน์ให้คุณเห็นด้วย ดังนั้น ผมต้องการให้ทุกคนได้สัมผัสกับความคิดของการทำงานแบบความคิดที่แคบ (silo mentality) ผมได้จัดเตรียมวิดีโอเอาไว้ – ผมใช้เวลาสามเดือน ผมต้องการให้คุณดูวิดีโอนี้และบอกผมว่าคุณสามารถแก้ปัญหา – หรือกลลวงได้หรือไม่ มาลองดูว่าคุณแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่:

[เล่นวิดีโอ] สิ่งที่คุณกำลังจะได้เห็นเป็นหนึ่งในภาพลวงตาทางจิตวิทยาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อนที่เราจะดูต่อไป ผมต้องการให้คุณตรวจสอบให้แน่ใจว่าไพ่ทุกใบที่นี่ [เขาคลี่ไพ่ออกบนโต๊ะ] ไม่มีใบไหนซ้ำกัน นั่นเป็นสิ่งแรกที่ผมอยากให้คุณสังเกต สิ่งที่สองคือ หลังไพ่ทั้งหมดเป็นสีน้ำเงิน [เขาพลิกไพ่กลับให้ดูกัน] สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับสีน้ำเงินคือ เป็นสีที่มีผลกระทบทางจิตวิทยาต่อจิตใจของมนุษย์ ถ้าคุณอยู่ที่นี่จริงๆ ผมจะให้คุณตัดไพ่และสุ่มเลือกไพ่ แต่เนื่องจากคุณไม่ได้อยู่กับเรา ให้เราใช้ไพสุ่มจากที่นี่ [เขาหยุดและสุ่มเลือกไพ่ – เป็นสี่โพดำ] สมมุติว่าเป็นไพ่ที่คุณเลือก จำเอาไว้ เป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณต้องจำไพ่ใบนั้นไว้ เพราะถ้าไม่งั้น สิ่งที่จะทำต่อไป ก็ไม่มีความหมายอะไร ดู ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ไพ่ที่คุณเลือก แต่ผมต้องการให้คุณแสร้งทำเป็นว่าคุณสามารถเห็นไพ่ของคุณในตลับนั้นได้ สิ่งที่น่าขันคือ มันได้กลายเป็นไพ่ของคุณ [เขาส่ายตลับไผ่ไปมาและก็มองเห็นไพ่สิบโพดำ และเมื่อเขาโบกตลับไพ่ ใบที่มองเห็นได้ก็กลายเป็นสี่โพดำ] คุณได้มองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ คุณเห็นไหม ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงนั้น – แต่การเปลี่ยนแปลงนี่ [เขาคลี่ไพ่ออก และไพ่ทุกใบก็เป็นสี่โพดำ] เพราะถ้าคุณไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ โอกาสที่คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ก็ไม่มี [เขาพลิกตลับไพ่และไพ่ทั้งหมดก็เป็นสีแดง – ไพ่ทุกใบ และนี่ก็หนึ่งของภาพลวงตาทางจิตวิทยาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

ถูกต้อง แล้วตอนนี้คุณคิดอย่างไง “ทำไมเขาถึงไม่ทำสดให้ดู แต่ทำเป็นวิดีโอมาให้ดู เขาเป็นนักมายากลที่เก่งจริงหรือมไม่ "ใช่ ใช่เขาเป็น คืออย่างนี้ ความจริงคือ ผมมีเหตุผลเฉพาะเจาะจงที่จะฉายวิดีโอให้ดูกัน ถ้าผมแสดงสดให้คุณดู พวกคุณก็จะมีมุมมองที่แตกต่างกันถึง 2,000 มุมมองในสื่งที่ผมทำ แน่นอน คุณย่อมจะสามารถแก้ปัญหานั้นได้ แต่การดูจากวิดีโอ ทำให้คุณมองเห็นได้แค่มุมมองเดียว – มุมมองที่ฉายให้คุณได้ดูกัน คุณจึงมีแบบความคิดที่แคบ ดังนั้น สิ่งที่ผมได้ทำในวันถ่ายทำคือการตั้งกล้องไว้อีกมุมหนึ่งเพื่อถ่ายทำในสิ่งเดียวกันเพื่อจะได้มุมมองที่แตกต่างกัน และเวลานี้ ผมจะฉายให้คุณดูจากอีกมุมมองที่แตกต่างกัน และดูว่าคุณจะสามารถแก้ปัญหาได้ไหม ผมคิดว่า คุณจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจยิ่งกว่าครั้งแรกอีก [วิดีโอ]

คุณเห็นคนนั้นทำสิ่งนี้หรือไม่ [ยกมือขึ้นทั้งสองข้างถ้าคุณเห็น] ใช่ มันต้องตอบถึง 38 ครั้งจึงจะตอบถูก . . ใช่ – เจ็ดชั่วโมงต่อมา มีกี่คนที่สามารถแก้ปัญหาได้ คุณได้เห็นผมสับไพ่ออกหรือไม่ คุณได้แก้ปัญหาแล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ เรามีมุมมองที่สดใหม่ คุณเริ่มได้เห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวผม ซึ่งดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้สังเกตเห็นจากแบบความคิดที่แคบ ของเรา แต่ด้วยมุมมองใหม่ทั้งหมดในทันทีที่เราเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้

คุณรู้หรือไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้หมายถึงอะไร โอกาส เมื่อเราผ่านชีวิตของเราด้วยแบบความคิดที่แคบ ไม่เพียงว่าเราจะไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้เท่านั้น แต่พลาดในการมองเห็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งรอบกายเราที่คว้าได้เพียงแค่เอื้อม การทำงานร่วมกันของหลายมุมมองเป็นพลังอำนาจ เหตุผลเดียวที่ทำไมผมจึงยืนอยู่ที่ผมตามที่ผมเป็น และได้ทำทุกอย่างที่ผมได้ทำ ก็เพราะว่า ผมทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ถ้าผมทำงานแค่กับนักเล่นกลเท่านั้น ผมคงจะไม่สามารถมายืนอยู่ที่นี่ได้ ผมต้องทำงานร่วมกันกับผู้คนในธุรกิจออนไลน์ นักจิตวิทยา นักภาษาศาสตร์ คนเหล่านี้ต่างให้มุมมองใหม่ๆ กับผม และพวกเขาสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่ผมไม่สามารถมองเห็นได้ มุมมองคือพลัง ผมเคยมีที่ปรึกษาอยู่ที่สหราชอาณาจักรที่สอนผมมากมายเกี่ยวกับการเล่นกล เขาพูดกับผมว่า "Vinh ในชีวิตนี่คือปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่มีอะไรที่ชัดเจน มันดูเหมือนวุ่นวายไปหมด และทุกคนมองเห็นเหมือนกัน และเมื่อคุณแสดงให้คนอื่นเห็นถึงมุมมองที่แตกต่างกัน และเมื่อพวกเขามองไปที่สิ่งเดียวกันในความวุ่นวาย พวกเขาก็จะเห็นรูปแบบ สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เมื่อคุณเรียนรู้จากมุมมองของพวกเขา และเมื่อคุณได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด คุณจะกลับไปเห็นถึงปัญหาของคุณเอง และเริ่มเห็นรูปแบบท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ปัญญาหากคุณต้องการจะกระโดดให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ในชีวิต ซึ่งเป็นการเรียนรู้ ไม่มีทางเลือกอื่น คุณต้องรวบรวมมุมมองที่แตกต่างกันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และไม่ตกเป็นเหยื่อของแบบความคิดที่แคบ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะใดของการเดินทางในชีวิตของคุณ" มุมมองก็คืออำนาจ

Vinh Giang, เป็นนักธุรกิจและผู้ประกอบชั้นแนวหน้า ในช่วงอายุ 20 เขาเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์กับเพื่อนที่ดีสองคนที่ทิ้งอาชีพเพื่อจะมาสร้างธุรกิจความฝันในการที่ประสบความสำเร็จ แพลตฟอร์มออนไลน์ Encyclopedia of Magic ของพวกเขาได้ทำการสอนการเล่นมายากลแก่นักเรียนเกือบ 50,000 คนทั่วโลก สำหรับแนวคิดธุรกิจที่สร้างสรรค์และประสบความสำเร็จนี้ Giang และเพื่อนของเขาได้รับรางวัล Young Entrepreneur of the Year แห่งปี มาจากจุดเริ่มต้นที่ต่ำต้อยของครอบครัวผู้อพยพชาวเวียดนาม Giang ได้ทำงานร่วมกับบริษัทต่างๆ ทั่วโลก การได้รับคำสอนจากโดยผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและจิตวิทยาความสำเร็จที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ภารกิจของเขาในธุรกิจและชีวิตคือการแบ่งปันจิตวิทยาของภาพลวงตาและใช้ความคิดนี้สามารถช่วยให้ผู้คนประสบความสำเร็จได้มากขึ้น