ผมดีใจที่ได้มาที่นี่ด้วยเหตุผลหลายประการ แน่นอนอย่างน้อยที่สุดพ่อของผมก็อยู่ในวงการนี้ ท่านขายประกันซึ่งส่วนใหญ่เป็นประกันชีวิตรวมถึงการให้เงินรายปีและผลิตภัณฑ์การบริการทางด้านการเงินอื่น ๆ ด้วย ดังนั้นผมจึงโตมากับมื้อเย็นที่มีเรื่องราวความแตกต่างระหว่างทั้งชีวิตกับการผันแปรแต่ที่สำคัญกว่านั้น ผมได้เข้าใจถึงผลกระทบที่พ่อมีต่อลูกค้า ที่คุณทำต่อลูกค้า ครอบครัวและสังคมของเขา

น่าเสียดายที่ผมเสียท่านไปด้วยโรคมะเร็งในปี 2007 แต่ผมมักจะสนุกกับการได้พูดคุยกับคนที่อยู่ในวงการอาชีพเดียวกับท่าน ซึ่งทำให้ผมนึกถึงผลกระทบที่ไม่ได้มีต่อผมคนเดียวแต่กับลูกค้าของเขา และท้ายที่สุดต่อสังคมของเรา

ด้วยเหตุนี้เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าเพราะทุกอย่างแตกต่างไปจากเดิมอย่างมากจากเมื่อสมัยพ่อของผมยังอยู่ในวงการเมื่อปี 1980 ทุกวันนี้นวัตกรรมมีอยู่ทั่วไป การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ทุกแห่ง การปฏิรูปมีให้เห็นอยู่ทุกที่ แล้วเราจะลุกขึ้นสู้กับความท้าทายนั้นได้อย่างไร เราจะใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต ความสำเร็จ และการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในสภาพแวดล้อมของการเปลี่ยนแปลงที่มากมายอย่างนี้ได้อย่างไร

ผมอยากให้คุณคิดถึงความคิดเห็นนี้ของนวัตกรรมในชีวิตประจำวันสักครู่เมื่อเราได้ยินคำพูด เช่น นวัตกรรม มันอาจจะทำให้รู้สึกเยอะเกินไป เราจะคิดถึงการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ เช่น การคิดค้นหลอดไฟหรือรถยนต์ และในสภาวะนั้นคุณอาจจะพูดว่า “มันมีประโยชน์อะไรกับฉัน” นวัตกรรมในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่นำมาใช้กับพวกเราทุกคนได้ เป็นแนวคิดในการใช้หลักเกณฑ์ของนวัตกรรมในการทำงานประจำวันของเราโดยตรง คุณไม่จำเป็นต้องตั้งบริษัทแอปพลิเคชั่นมือถือแล้วใช้เครื่องมือเพื่อให้มิติด้านนวัตกรรม เราสามารถมีมิติด้านนวัตกรรมในด้านการติดต่อลูกค้า ในการเสนอแนวทางการแก้ปัญหาแบบใหม่ หรือในทางที่เราจ้างสมาชิกในทีม

นี่เป็นตัวอย่างของสิ่งที่ผมหมายถึงนวัตกรรมในชีวิตประจำวัน นี่เป็นรูปบริษัทที่ผมตั้งขึ้นในดีทรอยต์ในปี 1999 [ภาพ] มีชื่อว่า ePrize เราออกแบบ สร้าง และใช้โปรโมชั่นแบบดิจิตอลเหมือนเป็นกึ่งบริษัทโฆษณากึ่งบริษัทซอฟต์แวร์ เราดำเนินการโดยได้รับผลกระทบทุกด้านแต่เราก็ประสบความสำเร็จพอควรด้วยสมาชิกในทีม 500 คนก่อนที่ผมจะขายบริษัทไปในปี 2012

ก่อนอื่นผมมาจากดีทรอยต์ ไม่ใช่ศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของอเมริกาเหนือสักเท่าไหร่ และตอนนั้นเราขาดพนักงาน ขาดเงินทุนและขาดทรัพยากร ที่สำคัญเราไม่ใช่พวกที่ฉลาดขนาดนั้น สิ่งที่ทำให้เราชนะคือ ความไม่จำกัดความของนิยามของคำว่านวัตกรรม สำหรับเรามันไม่ใช่รหัสที่เราคิดขึ้น สำหรับเรามันคือวิถีชีวิต วิธีบริการของเรา วิธีการชักจูงของเรา รวมถึงวิธีการขายของเรา

นี่คือตัวอย่างของการดำเนินการนวัตกรรมในชีวิตประจำวัน ผมรู้ว่าหลายคนเป็นพนักงานขาย เรากำลังพยายามผลักดันธุรกิจใหม่ ๆ และขายให้มากขึ้นกับลูกค้าที่เรามีอยู่ ผมรู้ว่าคุณจะต้องยินดีกับเรื่องนี้ ขณะที่ผมกำลังสร้างบริษัทเรามีโอกาสทำธุรกิจจำนวนมากจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ชื่อ ConAgra Foods คุณอาจจะเคยเห็นยี่ห้อในร้านขายของอุปโภคบริโภค บริษัทยักษ์ใหญ่นี้ตัดสินใจที่จะซื้องานของเรา การโปรโมชั่นแบบดิจิตอลเพียงแหล่งเดียวให้ธุรกิจทั้งหมดแก่ผู้จัดจำหน่ายรายเดียว

คุณคงเห็นภาพ การแข่งขันจึงได้เริ่มขึ้น เราเข้ารอบสุดท้าย ณ ขณะนั้นมีสามบริษัทที่เข้ารอบ ร้านเล็ก ๆ จากดีทรอยต์ของผม และบริษัทที่ใหญ่กว่า 2 บริษัท และเราทั้งสามก็ต้องการที่จะชนะ ปัญหาคือผู้ซื้อ ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจเป็นคนที่ค่อนข้างงี่เง่า อันที่จริงเขางี่เง่ามาก ๆ ผมเชื่อว่าคุณคงเคยเจอลูกค้าแบบนี้มาก่อน เขาเป็นคนเย่อหยิ่ง ยโสและยุ่งยาก เขายื้อกระบวนการ เขาคอยกำหนดเวลาเพื่อให้ตัวเองได้ตัดสินใจและเขาก็ผิดนัดทุกครั้ง

ณ ตอนนั้นเราอยากให้ทุกอย่างจบลงสักที ผมพบกับสุภาพบุรุษและภรรยาของเขาโดยบังเอิญในการประชุมอุตสาหกรรม อันที่จริงมันเป็นแบบนี้มากกว่า ผมเจอเขาในช่วงพักดื่มกาแฟบ่อยและผมพยายามเข้าหาเขาเพื่อปิดการซื้อขาย ไม่ได้ผลเลย เขาไม่สนใจเลย ผมพบเขาอีกครั้งที่สนามบิน ปรากฏว่าชายคนนั้นและภรรยาไปเที่ยวบินเดียวกับผม นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น

ผมคงไม่สามารถแต่งเรื่องนี้ขึ้นเองได้หรอก ผู้ชายคนนั้นเดินทางบ่อยจึงได้อัพเกรดเป็นชั้นหนึ่ง ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษของเขา เขาขึ้นไปนั่งชั้นหนึ่งและปล่อยให้ภรรยานั่งชั้นประหยัด คุณพอจะนึกออกใช่ไหม คือถ้าผมทำแบบนี้กับเทียภรรยาของผมอวสานทันทีครับ ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปที่คุณจะไม่เชื่อคือ ผมก็ได้อัพเกรดเช่นกัน ผมก็เป็นผู้ที่เดินทางบ่อย ผมเดินขึ้นเครื่องบินกำลังหาที่นั่งและปรากฎว่าผมได้นั่งติดกับเขา ทีนี้ลองคิดสิว่าสัญชาตญาณของคุณจะบอกว่ายังไง คุณได้นั่งใกล้กับผู้ที่อาจเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุด ลุยเลยและปิดการขายซะ ผมก็รู้สึกอย่างนั้น แต่ผมหยุดคิดและผมก็อยากให้คุณหยุดคิดเหมือนกัน เมื่อคุณเผชิญหน้ากับโอกาส ความท้าทายหรือแม้กระทั่งการข่มขู่ การหยุดคิดสักนิดจะทำให้เราเกิดความคิดสร้างสรรเพื่อสำรวจเส้นทางนอกกรอบนวัตกรรมประจำวัน

ในกรณีของผม ผมพูดว่า “เฮ้ ผมได้ที่นั่งติดกับคุณ” เขาเงยหน้าขึ้นมองผม “ดี เราจะได้คุยกัน” ผมพูดว่า “ผมก็อยากให้เป็นแบบนั้น” แต่ปัญหาคือผมมีงานที่จะต้องทำเยอะมากและอยากจะทำให้มันเสร็จ ๆ ผมบังเอิญเห็นว่าภรรยาของคุณนั่งอยู่ด้านหลัง ผมสลับที่กับเธอดีไหม คุณทั้งคู่จะได้นั่งด้วยกันอย่างมีความสุขและผมก็จะได้ทำงานด้วย ผมเดินไปด้านหลัง เจอภรรยาของเขาและยื่นตั๋วที่นั่งให้เธอ ผมพูดว่า “ไปนั่งกับสามีของคุณเถอะครับและขอให้เดินทางอย่างมีความสุข” เธอน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมา เธอพูดว่า “ขอบคุณมาก มันมีความหมายกับฉันมาก ฉันมีความสุขมากที่จะได้นั่งกับสามีของฉัน” ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่ผมคาดว่าเธอจะพูดว่า “เก็บตั๋วของคุณไว้เถอะ พวก”

แล้วเครื่องบินก็บินขึ้น ผมไม่ได้คิดอะไรมากนักจนกระทั่งเครื่องบินลงจอด สิ่งแรกที่เราทุกคนทำเมื่อเครื่องบินจอดคือ เช็คโทรศัพท์มือถือ ผมดูโทรศัพท์ของผมและเห็นว่ามีอีเมลจากที่ทำงาน Josh, ConAgra เซ็นข้อตกลง ขอบคุณ

นี่เป็นเรื่องจริงนะครับและเขามาบอกผมภายหลัง เขาพูดว่า “ผมกำลังมองหาคนที่ไม่มีเส้นสาย” บริษัททั้งสามแน่นมากแต่เมื่อคุณได้แสดงให้เห็นถึงความมีมนุษยธรรมแทนที่จะไล่ตามให้สำเร็จและคุณแสดงให้เห็นถึงความเต็มใจที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ในชีวิตประจำวัน” เขาบอกต่อว่า “นั่นแหล่ะที่ผมอยากได้มาร่วมทีม” ก่อนเครื่องขึ้นเขาได้ส่งข้อความไปที่ทำงานจนถึงเวลาที่เครื่องลงจอด ข้อตกลงได้รับการเซ็นแล้ว 30 ล้านเหรียญ

ที่ผมนำเรื่องนี้มาพูดก็ด้วยเหตุผล 2 ประการ ประการแรกคือ สิ่งที่ผมทำบนเครื่องบินนั่น ดีที่คุณรับรู้ แต่มันไม่ได้พิเศษอะไรมากมายนัก ความจริงก็คือ เราทุกคน ทุกคนนะครับ มีสมรรถนะทางความคิดที่มหาศาล นั่นคือสภาพทางธรรมชาติของเราในฐานะที่เป็นมนุษย์ เราได้รับการเตรียมพร้อมให้เป็นบุคคลซึ่งเต็มไปด้วยความคิดริเริ่ม

ประการที่สองคือ ที่ผมยกขึ้นมาพูดเพราะทุกวันนี้มากกว่าแต่ก่อน เราจะชนะหรือแพ้ก็เพราะการหลุดจากเครือข่ายเส้นสายเหล่านั้นใช่ไหม มันอาจจะนำลูกค้าใหม่มาให้หรือมันอาจจะสรรหาความสามารถใหม่ ๆ และผมขอยืนยันว่าความคิดสร้างสรรค์เล็ก ๆ จากสถานการณ์มีเส้นสายนั้นสามารถสร้างความแตกต่างในโลกได้

สิ่งที่ผมอยากถามคุณคือ ถ้าคุณมองไปทั่วโลกในวันนี้ คุณคิดว่าบริษัทใดเป็นอันดับหนึ่งของโลก กูเกิ้ล กูเกิ้ล แน่นอน เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุด มันเป็นเจ้าของ Google Maps และ Waze ผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุด

คำถามที่ท้าทายมากกว่านั้นอีกคือ ใครเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดเมื่อ 20 ปีที่แล้วจริง ๆ คือ Rand McNally ที่ประหลาดที่สุดคือไม่ใช่แค่เป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่สุดเมื่อ 20 ปีที่แล้วเท่านั้น แต่เป็นมา 120 ปีแล้ว บริษัทตั้งขึ้นเมื่อปี 1856 ความสำเร็จสูงสุดกับพนักงานทำแผนที่ 5000 คน ที่เป็นผู้ที่มีอิทธิพลและนวัตกรรมใหม่ที่สุดในโลกในอุตสาหกรรมนี้ แต่แล้วมันก็ตกลงไปในกับดัก กับดักที่แทบทุกบริษัทและสายงานอาชีพตกลงไป กับดักในความหลงระเริงกับความสำเร็จของตัวเอง มันล้มเหลวในการปรับตัว มันล้มเหลวในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ จากนั้นมันก็แค่ล้มเหลว

ข่าวดีสำหรับเราคือ เราสามารถหลีกเลี่ยงกับดักนี้ได้ เราสามารถทำได้ดีกว่าโดยมั่นใจว่าเราเป็นแหล่งที่มาของการสร้างโอกาสมากกว่าให้มันมาผลักดันเรา เราสามารถทำความสำเร็จให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องได้

นี่เป็นเรื่องจริงเพราะทุกวันนี้สิ่งที่เป็นพื้นฐานที่เรารู้ได้พลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือมาในระยะหลายปีที่ผ่านมา ทุกวันนี้เราทำงานในสำนักงานที่มีลักษณะเหมือนบ้านและเราอาศัยอยู่ในบ้านที่มีลักษณะเหมือนโรงงานในบางส่วนของประเทศ ตอนนี้ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณสามารถเติมน้ำมันที่จัดส่งถึงที่โดยแอปบนมือถือถ้าคุณมีรถ คุณไม่จำเป็นต้องไปที่ปั๊มน้ำมันแถวบ้านแต่รถบรรทุกน้ำมันจะมาหาคุณเอง นี่คือภาพถ่ายที่ยุโรป [ภาพ] สิ่งที่เป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างการข้ามถนนกำลังเปลี่ยนไป นี่คือทางม้าลายที่มีไฟ LED เป็นระบบนำทางที่คอยเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีคนข้ามถนน ในประเทศนิวซีแลนด์คุณสามารถรับพิซซ่าของคุณที่ส่งโดยเครื่องบินโดรน

ผมคิดว่านี่เป็นข้อความที่ชัดเจนและเป็นจุดที่เราไม่สามารถพึ่งพาสิ่งประดิษฐ์จากอดีตและคาดหวังผลลัพธ์เดียวกันได้อีกต่อไป วันนี้เราจำเป็นต้องใช้วิธีการใหม่เพื่อตอบสนองความท้าทายในวันที่ต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยซึ่งไม่ใช่การแต่งเติมขึ้นหรือการเรียนรู้ด้วยเครื่องจักร มันคือความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ไม่สามารถจ้างหน่วยงานภายนอกหรือทำให้เป็นอัตโนมัติได้ ที่จะกลายเป็นแหล่งที่มาของความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืนของเรา

และนี่เป็นคำแนะนำจากผมสำหรับคุณ คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนงานหรือกลุ่มอุตสาหกรรม ข้อแนะนำของผมคือให้อ้าแขนรับบทบาทใหม่ และบทบาทรองไม่ว่าคำนำหน้าชื่อในนามบัตรของคุณคืออะไรและบทบาทนั้นก็คือ การเป็นผู้สร้างโอกาส เป็นผู้นำสิ่งใหม่เข้ามา ผู้ชำนาญด้านการบริการการเงินหรือผู้ประกอบการ เพราะนี่คือทักษะและความเชื่อที่จะทำให้เราสามารถชนะในช่วงเวลาที่ท้าทายที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ได้

สิ่งต่อไปนี้คือสิ่งที่จะทำให้เข้าใจว่าทำไมผมจึงหลงรักหัวข้อนี้ในการใช้ประโยชน์จากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์เพื่อกระตุ้นผลลัพธ์ทางธุรกิจ ในช่วง 27 ปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสสร้างและขายบริษัทเทคโนโลยี 5 แห่ง ผมระดมเงินทุน 250 ล้านดอลลาร์และสร้าง 8,700 งาน หุ้นส่วนและตัวผมต้องการตอบแทนสังคมที่บ้านเกิดที่ดีทรอยต์ เราจึงตัดสินใจเริ่มลงทุนในเงินกองทุนสะสมร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างความแตกต่างในเมืองของเรา ในการทำงานนั้นขณะนี้ผมมีผู้เข้าร่วม 3,100 ผู้ประกอบการ ผมเริ่มลงทุน 110 ทุน บางแห่งออกมาดีมากแต่ก็มี 16 ทุนที่เป็นศูนย์ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าความรู้สึกของการชนะเป็นยังไง แต่ก็เข้าใจถึงการสะดุดด้วยเช่นกัน คุณเรียนรู้จากทั้งสองสิ่งนี้ได้มาก ตอนนี้ผมได้มีโอกาสนั่งเป็นกรรมการในบริษัท 83 แห่ง ผมไม่ได้ต้องการโอ้อวด มีหลายคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าผม เหตุผลเดียวที่ผมพูดขึ้นมาเพราะผมเห็นมากับตัวผมเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้นำและองค์กรต่าง ๆ ยอมรับนวัตกรรมอย่างเต็มที่และเกิดอะไรขึ้นเมื่อพวกเขาไม่ยอมรับ

ความหลงรักของผมนี้— การใช้ประโยชน์จากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์เพื่อกระตุ้นผลลัพธ์ทางธุรกิจ—ทำให้ผมเขียนหนังสือสามเล่มในหัวข้อนี้ ในการทำวิจัยสำหรับหนังสือผมมีสิทธิ์สัมภาษณ์เป็นการส่วนตัวกับความคิดเห็นผู้นำมากกว่า 200 คนทั่วโลก ผมสัมภาษณ์ซีอีโอ มหาเศรษฐี ผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียง และยังได้สัมภาษณ์คนอื่น ๆ ที่เป็นที่หนึ่งของวงการซึ่งรวมถึง ครู นักดนตรี หรือแม้แต่ผู้เจาะระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

นี่คือสิ่งที่ผมค้นพบในกลุ่มคนพิเศษที่มีความหลากหลายปรากฎว่ามีรูปแบบเดียวกัน เข้าหาแบบเดียวกัน และความคิดเดียวกันกับคนและองค์กรที่มีนวัตกรรมมากที่สุด

นั่นคือสิ่งที่ผมตื่นเต้นที่จะได้แบ่งปันกับคุณ ความคิดใหญ่ 5 ความคิด แกนหลัก 5 ข้อของนวัตกรรม ในขณะที่เราลงมือ ผมอยากให้คุณเปิดใจให้กว้างและคิดว่าคุณจะสามารถนำหลักการแต่ละข้อเหล่านี้ไปใช้ยังไงและผลักดันตัวคุณและใช้ในชีวิตประจำวันของคุณโดยตรงเพื่อนำ เพื่อชนะ เพื่อบริการ และเพื่อทะเยอทะยานให้มากขึ้น

หัวใจหลักข้อแรกของนวัตกรรมคือ ความคิดที่ว่าทุกอุปสรรคสามารถฝ่าฟันไปได้ เป็นความเชื่อส่วนตัวว่าไม่ว่าอุปสรรคจะยากแค่ไหน หากคุณใช้จินตนาการหรือความคิดสร้างสรรค์มากพอ ในที่สุดอุปสรรคก็จะมลายไปเอง

นี่เป็นตัวอย่างที่น่าสนุกสำหรับคุณ สองสามเดือนที่ผ่านมา เที่ยวบินแอร์แคนนาดาติดบนรันเวย์ที่สนามบินโตรอนโตเป็นเวลาเจ็ดชั่วโมงเนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี ผู้โดยสารที่น่าสงสารเหล่านั้น หลังจากที่พวกเขาขม้ำถั่วและดื่มเหล้าหมดแล้ว พวกเขาก็เริ่มอยู่ไม่สุข พวกเขาทวีตหาเพื่อน โทรหาคนรัก บ่นและขอร้องพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พวกเขาพูดว่า “อย่างน้อยคุณก็ควรต้องให้อาหารกับเราบ้าง” พนักงานต้อนรับแอร์แคนาดาไปที่ไมโครโฟนและพูดว่า “ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีค่ะ ดิฉันต้องขอประทานโทษด้วยแต่เราไม่สามารถทำอะไรได้”

ที่น่าสนใจคือ นักบินจากเวสท์เจ็ด (WestJet) สายการบินคู่แข่งในประเทศแคนนาดาได้ยินความสับสนวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้น แต่ชายคนนี้เชื่อว่าทุกอุปสรรคสามารถฝ่าฟันไปได้ ถึงแม้งานหลักของเขาคือการขับเครื่องบิน หากคุณคิดจริง ๆ แล้วงานหลักของเขาคือ การให้บริการลูกค้าและส่วนรวม เขาเชื่อว่าทุกอุปสรรคสามารถฝ่าฟันไปได้

ประมาณ 45 นาทีต่อมาเขาก็ขึ้นบันไดเหล็กไปบนเครื่องบิน เขาปีนขึ้นบันไดและเคาะประตู เมื่อประตูเปิดเขามาพร้อมพิซซ่าเต็มแขน และมันทำให้เกิดการทวีตที่น่าทึ่งแบบนี้ ลองดูครับ: แปลกแต่ตลกดี: @ผู้ชายจากเวสท์เจ็ตเดินมาบอกว่า “สวัสดีครับผมมาจากเวสท์เจ็ตและเราทำสิ่งที่แตกต่าง ต้องการพิซซ่าไหมครับ”

น่าทึ่งมาก ลองคิดถึงผลกระทบของสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ไม่ใช่เฉพาะกับคนที่อยู่บนเครื่องบินเท่านั้น ถ้าเหตุการณ์นี้แพร่ออกไป ลองคิดถึงความจงรักภักดีที่เขาได้สร้างขึ้นเพียงเพราะเขาเชื่อว่าอุปสรรคทุกอย่างสามารถฝ่าฟันไปได้

ในทำนองเดียวกันกับผู้หญิงที่ชื่อ Jessica Matthews ที่มีความเชื่อเดียวกัน Jessica เกิดที่ไนจีเรีย เธอมาประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เธอกลับไปบ้านเกิดของเธอที่ประเทศไนจีเรียประมาณหนึ่งปีต่อมาเพื่อไปงานแต่งงานของน้า พวกเขามีความสุขกับงานมาก ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีจนกระทั่งไฟดับ นี่เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่ในประเทศไนจีเรียแต่ในประเทศที่กำลังพัฒนาจำนวนมาก ระบบไฟฟ้าแบบเก่าไม่สามารถผลิตไฟฟ้าให้ทันกับความต้องการได้

แล้วพวกเขาทำอย่างไร พวกเขาทำในสิ่งที่เคยทำเสมอมา พวกเขาติดเครื่องปั่นไฟ งานดำเนินต่อแต่ตอนนี้เจสสิก้าและแขกคน อื่น ๆ กำลังหายใจเอาควันเข้าปอด ขณะที่ปอดของเธอกำลังไหม้และเธอกำลังสำลัก เธอคิดว่าจะต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้และฉันจะต้องทำอะไรสักอย่าง มันไม่ใช่ธุระอะไรของเธอที่จะคิดแบบนั้น เธอเป็นนักเรียนมหาวิทยาลัยไม่มีความรู้เกี่ยวกับภาคพลังงาน ไม่มีพื้นฐาน แต่เธอเชื่อว่าทุกอุปสรรคสามารถฝ่าฟันไปได้

วันรุ่งขึ้นเธอกำลังเฝ้าดูเด็ก ๆ เล่นฟุตบอลและเธอก็คิดขึ้นได้ เธอคิดว่าดูพลังงานในสนามนั่นสิ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันสามารถรวบรวมมันได้ ฉันพนันได้ว่าฉันสามารถให้พลังงานได้ทั้งเมือง เธอตั้งทีมกับเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นนักวิศวกรและคิดค้นสิ่งที่เรียกว่าซ็อกเก็ต (Socket) ซ็อกเก็ตดูเหมือนและมีวิธีใช้เหมือนกับลูกฟุตบอลธรรมดา แต่ภายในเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานจลน์ นั่นเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่บอกว่าหนึ่งชั่วโมงในสนามฟุตบอลจะให้พลังงานหลอดไฟเป็นเวลาแปดชั่วโมง สุดยอด

แต่เธอไม่ได้หยุดแค่นั้น เธอยังคงทำต่อไปเพราะเธอคิดว่าการเล่นฟุตบอลอย่างเดียวไม่สามารถทำได้ เธอคิดว่าฉันจะสามารถใช้ความคิดนี้ได้ที่ไหนอีกบ้าง การเคลื่อนไหวเพื่อสร้างพลังงาน การประดิษฐ์ครั้งต่อไปของเธอเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กระโดดเชือกแล้วชาร์จโทรศัพท์มือถือของคุณ ความต้องการสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เธอเริ่มต้นสร้างบริษัทของตัวเองซึ่งเป็นผู้ออกใบอนุญาตเทคโนโลยีให้กับผู้ผลิตรายอื่น ๆ

ตัวอย่างเช่น บริษัทกระเป๋าเดินทาง สมมติว่าคุณกำลังลากกระเป๋าที่มีล้อเลื่อนของคุณที่สนามบิน LA แต่ในขณะที่ล้อเหล่านี้กำลังหมุนอยู่ มันอาจเป็นไปได้ว่ากำลังสร้างแหล่งพลังงานทดแทนที่สะอาด ไม่มีข้อจำกัดที่นำมาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้ Jessica ไม่เพียงแต่สร้างความแตกต่างให้กับโลกแต่เธอได้สร้างบริษัทที่ประสบความสำเร็จให้กับตัวเองพอสมควร สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณสามารถเป็นสิ่งที่น่าทึ่งเมื่อคุณเชื่อว่าอุปสรรคทุกอย่างสามารถฝ่าฟันไปได้

นี่คือตัวอย่างสุดท้ายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากผมรู้ว่าพวกเราส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในจุดเริ่มต้น เราอยู่ในองค์กรที่มีขนาดใหญ่และเป็นที่ยอมรับกัน ใกล้เมืองดีทรอยต์ไปทางเหนือประมาณ 20 ไมล์มีเมืองหนึ่งชื่อทรอย รัฐมิชิแกน ห้องสมุดในเมืองทรอยกำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤติงบประมาณที่เลวร้ายจนจะต้องปิดห้องสมุดลง ผู้นำหลาย ๆ คนไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น พวกเขาพูดว่า “เรามาสู้กันเถอะ” พวกเขาได้รับข้อเสนออัตราค่าภาษีในการลงคะแนนเสียงที่จะเกิดขึ้นซึ่งเป็นการเพิ่มภาษีค่าทรัพย์สินเพื่อรักษาห้องสมุดที่รักของพวกเขาเอาไว้

แต่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา กลุ่มระดับชาติที่ที่มีการก่อตั้งและได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างดีได้ลงไปที่ทรอย รัฐมิชิแกนเปลี่ยนหัวข้อจาก “รักษาห้องสมุดของเรา” เป็น “ไม่มีภาษีใหม่” ณ จุดนี้เหลือเพียงหนึ่งเดือนและห้องสมุดก็จะเผชิญกับความพ่ายแพ้ พวกเขาไม่มีเงินทุน ไม่มีระบบระเบียบ และกำลังหมดเวลา แต่พวกเขาไม่ได้ขาดแคลนความคิดสร้างสรรค์ แทนที่จะมองหางานใหม่ พวกเขาพูดว่า “เรามาปะทะกลับกันเถอะ” ผมอยากแบ่งปันกับคุณสิ่งที่พวกเขาทำ [วิดีโอ]

ผลการโหวตปรากฏว่า ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงสูงกว่าที่คาดไว้ 400 เปอร์เซ็นต์ ห้องสมุดที่สวยงามนั้นยังคงอยู่ที่นั่นวันนี้ แน่นอนพวกเขาชนะขาดลอย นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราเชื่อว่าทุกอุปสรรคสามารถฝ่าฟันไปได้

ผมจะสรุปหลักการแรกด้วยภาษิตจีนโบราณที่เรียบง่ายและงดงามซึ่งกล่าวว่า “คนที่บอกว่าไม่สามารถทำได้ไม่ควรขัดขวางคนที่กำลังทำสิ่งนั้นอยู่”

ลองมาดูแนวคิดหลักที่สองของนวัตกรรมกัน อันนี้ผมอยากเรียกว่า “วิดีโอฆ่าดาววิทยุ” พวกคุณบางคนคงจำเพลงจากปี 1979 กันได้ เป็นเพลงแรกที่เล่นในช่อง MTV สำหรับเราในฐานะสมาชิก MDRT คือการปล่อยให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งที่สามารถทำได้เป็นไป เป็นความตั้งใจที่จะต่อต้านประเพณี ท้าทายสมมติฐานพื้นฐาน และยอมพึ่งพาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ

ในขณะที่ผมสร้างบริษัทของตัวเอง ผมมีคำพูดที่จะพูดกับตัวเองทุกวัน “วันหนึ่งจะมีบริษัทมมาเขี่ยเราออกจากธุรกิจ” อาจจะเป็นเราก็ได้ วิดีโอฆ่าดาววิทยุ

หนึ่งในบริษัทไอศครีมที่ทันสมัยที่สุดในโลกคือ Ben & Jerry’s และส่วนหนึ่งที่ทำให้มันยังคงติดอันดับคือ เพราะพวกเขายินดีที่จะปล่อยความสำเร็จเก่าเพื่อมีที่ว่างสำหรับความสำเร็จใหม่ เมื่อรสชาติไอศกรีมไม่เป็นที่นิยมต่อไปพวกเขาหยุดผลิตทันที ถึงแม้ว่าจะประสบความสำเร็จในอดีต ผมพูดจริง ๆ พวกเขาจัดงานศพให้ธุรกิจเลย

นี่คือสิ่งที่พวกเขาทำ [ภาพ] นี่สำหรับ “dearly de-pinted” อันที่จริงมันเป็นเรื่องที่ฉลาดมาก ๆ พวกเขาฉลองความสำเร็จของรสชาติในอดีตที่ผ่านมา แล้วปล่อยไปเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับสิ่งใหม่ ๆ บนเว็บไซต์ของพวกเขามีแม้กระทั่งสุสานของรสที่เคยประสบความสำเร็จมา เช่น Wavy Gravy ซึ่งเคยอร่อยมากเมื่อปี 1993-2001 แต่ไม่ได้ทำอีกต่อไป การเฉลิมฉลองรสชาติในอดีตแทนที่จะยึดติดกับสิ่งที่เคยมีช่วยให้ Ben & Jerry’s สามารถก้าวสู่ความเป็นไปได้ของรสใหม่ ๆ

นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของวิดีโอฆ่าดาววิทยุ St. Regis Washington, DC พยายามที่จะเปลี่ยนตัวเองเหมือนพวกเราส่วนใหญ่ เมื่อดูรอบ ๆ โรงแรมและเห็นว่าตู้เสื้อผ้าว่างเปล่าซึ่งเป็นตู้เดียวกันที่อยู่ในห้องพักทุกห้องและความคิดก็เกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่ตามมา ก่อนที่คุณจะเช็คอิน โรงแรมจะส่งแบบสำรวจไปให้คุณทางอีเมลเพื่อสอบถามเกี่ยวกับขนาดของคุณและแฟชั่นที่คุณชอบ เมื่อคุณเดินเข้าไปในห้องแทนที่จะเป็นตู้ที่ว่างเปล่า คุณจะพบว่ามันเต็มไปด้วยรายการที่คุณอาจชอบที่เลือกเป็นพิเศษในขนาดและรูปแบบของคุณ ถ้าคุณชอบก็ลองใส่ดู ถ้าคุณสวมมันออกมาจากห้องจะมีการส่งบิลเรียกเก็บเงินในใบแจ้งหนี้โรงแรมของคุณ ถ้าไม่ ก็ทิ้งไว้ในห้อง

ที่สามารถทำเช่นนี้ได้เพราะเป็นพันธมิตรกับร้านค้าปลีกหรูชื่อ Neiman Marcus นี่เป็นแนวคิดเล็ก ๆ ของการเต็มใจที่จะมองสิ่งที่เป็นมาตรฐานทั่วไป แล้วจินตนาการสิ่งที่ดีกว่า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น กระแสรายได้ใหม่เกิดขึ้นซึ่งไม่ต้องใช้ทุนเพราะเป็นพันธมิตรกับ Neiman Marcus ทำให้พื้นที่ที่ไม่มีใครใช้เกิดขึ้นและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

อะไรที่เทียบเท่ากับตู้เสื้อผ้าที่ว่างเปล่าในธุรกิจของคุณได้บ้าง อาจเป็นสิ่งที่เราทำหรือเห็นมากกว่า 50 ครั้งต่อวันแล้วเราไม่เห็นมัน อาจมีโอกาสที่เราสามารถนำเสนอในรูปแบบใหม่ นำไปปรับใช้ใหม่ และก้าวสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ

ลองนึกภาพว่าคุณเปิดกิจการบริษัททัวร์รถบัส รถบัสของคุณอาจจะมีลักษณะแบบนี้เพราะมันเป็นลักษณะทั่วไป [ภาพ] เหมือนการบริการทางการเงินมันเป็นอุตสาหกรรมที่โตเต็มที่ มีกฏระเบียบและอื่น ๆ ปัญหาคือมีข้อบกพร่องในการออกแบบ ลูกค้าครึ่งหนึ่งของคุณมีมุมมองที่แตกต่างแต่ไม่มีใครทำอะไรจนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้

ผู้ประกอบการรถทัวร์ในนิวยอร์กเชื่อว่าวิดีโอสามารถฆ่าดาววิทยุได้ ลองดูรถทัว์ของเขากัน [ภาพ] พวกเขาติดตั้งที่นั่งแบบ สเตเดี้ยมที่หันหน้าไปทิศเดียวกันและผนังกระจกขนาดใหญ่เพื่อให้ทุกคนมีวิวที่งดงาม พวกเขายังได้ประสานงานกับนักแสดงบนท้องถนนตามจุดต่าง ๆ บนเส้นทางรถ ในแวดวงการค้าที่มีการแข่งขันสูงและสินค้ามีมูลค่าสูงของผู้ประกอบการรถทัวร์ในเมืองนิวยอร์ก ผมพนันว่าคุณจะไม่แปลกใจที่รู้ว่าใครเป็นบริษัทหมายเลขหนึ่งในพื้นที่นั้น วิดีโอสามารถฆ่าดาววิทยุ

มันเกิดขึ้นในเกือบทุกอุตสาหกรรม ผมมาจากดีทรอยต์ดังนั้นผมศึกษาเกี่ยวกับรถยนต์มามาก ถ้าคุณมีรถ คุณอาจซื้อหรือเช่าซื้อมา ตอนนี้มีตัวเลือกที่สาม พอร์ชและคาดิลแลคมีการทดลองกับสมาชิก มันเป็นแบบนี้ครับ คุณลงทะเบียนและชำระค่าบริการรายเดือน คุณไม่ได้เป็นเจ้าของรถ คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อและคุณไม่ต้องจ่ายค่ามัดจำใด ๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและไม่มีค่าประกัน มีเพียงแค่ค่าธรรมเนียมรายเดือนและแทนที่จะมีรถเพียงคันเดียว คุณจะได้รับสิทธิ์ในการใช้รถยนต์ทั้งหมด คุณสามารถใช้รถเปิดประทุนได้ในช่วงสุดสัปดาห์และเมื่อคุณพร้อมที่จะเปลี่ยน คุณสามารถใช้แอปบนมือถือเพื่อบอกว่า “ฉันต้องการใช้เอสยูวี” ซึ่งจะมีการจัดส่งให้คุณอย่างดี อย่างสะอาด และน้ำมันเต็มถัง ขับไปสักพักแล้วค่อยแลกกับรถซีดานสามารถแลกได้แบบไม่จำกัด

ตอนนี้เราก็จะรอดูว่านี่เป็นรูปแบบใหม่ของการเป็นเจ้าของรถหรือไม่ ผมไม่รู้ แต่ผมชื่นชมที่พวกเขากำลังใช้อุตสาหกรรมที่มีความเจริญเติบโตแบบเก่ามาผลักดันขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ พวกเขากำลังใช้วีดีโอสามารถฆ่าดาววิทยุไปปรับใช้

นี่เป็นเทคนิคที่ดีที่คุณควรจำ ผมจะแบ่งปันเทคนิคที่เฉพาะเจาะจงและใช้งานง่ายกับคุณ เพื่อช่วยให้คุณใช้ความคิดเหล่านี้และนำไปปฏิบัติในเดือนและปีที่จะตามมา

เทคนิคแรกผมเรียกมันว่า “จูโดฟลิป” กล่าวอีกนัยคือ เมื่อคุณกำลังจะทำอะไรแบบเดิม ให้ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณกลับด้านมันซะ จูโดฟลิป ธรรมเนียมเดิม จูโดฟลิป การข่มขู่ จูโดฟลิป ความท้าทาย จูโดฟลิป โอกาส วิธีการคัดค้านนี้เป็นแรงผลักดันความก้าวหน้าตั้งแต่เริ่มแรก

มันใช้ได้ผลดีกับผู้ชายที่ชื่อ เควิน บูล เควินอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกับเราในด้านบริการทางการเงิน แต่เควินมีความฝัน ความฝันของเควินคือการกลายเป็นนักรบอเมริกันนินจา คุณเคยเห็นรายการนี้ไหม มันบ้าดี มันเป็นหนึ่งของการแข่งขันกีฬาที่ยากลำบากมาก คนที่เข้าร่วมการแสดงนั้นนับได้ว่าเป็นนักกีฬามืออาชีพ นักกีฬาโอลิมปิกที่ฝึกฝนมาทั้งชีวิต เควินนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน แต่ด้วยการทำงานอย่างหนักและอย่างต่อเนื่อง เขาได้เข้าร่วมในรายการในฐานะมือสมัครเล่นแต่แล้วเขาก็ได้เผชิญกับความท้าทายในชีวิต

ที่เรียกว่าแคนนันบอล แอเลย์ มันจำเป็นต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายส่วนบนอย่างมาก มีลูกบอลห้อยลงมาจากคานค้ำหลังคาและเขาต้องคว้าลูกหนึ่งเพื่อกระโจนไปอีกลูกหนึ่ง นักกีฬาที่เก่งที่สุดในโลกสิบหกคนได้เผชิญกับความท้าทายนี้มาก่อนเควิน ทุกคนล้มเหลว คราวนี้เป็นตาของเควิน เขาจะทำอย่างไร เขารู้ว่าเขาไม่ได้มีความแข็งแรงของร่างกายส่วนบนเหมือนคนก่อนหน้าเขา เขารู้ว่าวิธีการเก่าจะไม่ได้ผล เขาต้องหาวิธีการใหม่ เขาต้องอ้าแขนรับแนวความคิดวิดีโอฆ่าดาววิทยุ เขาต้องลอง จูโดฟลิป มาดูว่าเควินทำอย่างไร [วิดีโอ – เควินใช้เท้าเพื่อการชนะ]

เขาเป็นคนแรกที่ชนะการแข่งขัน ผมคิดว่าเป็นโอกาสที่เราทุกคนมีในโลกของการให้บริการทางการเงินและทั่วทั้งครอบครัว MDRT การทำสิ่งเก่า ๆ จะไม่ทำให้เราไปในที่ที่เราอยากไป มันเป็นแบบนั้น พลิกมันซะ ใช้ประเพณีของเราและเผชิญหน้ากับมัน และจินตนาการเส้นทางใหม่ไปข้างหน้าเพื่อให้บริการ เพื่อขายและเพื่อนำ นั่นคือวิธีที่เราจะชนะ นั่นคือวิธีที่เราจะกลับมาที่นี่ในปีหน้า ปีถัดไปและถัดไป

เพื่อสรุปความคิดหลักที่สองอย่างรวดเร็ว: วิดีโอฆ่าดาววิทยุ มันคือการต่อต้านธรรมเนียมเดิม ท้าทายข้อสมมติฐาน และปล่อยอดีตไปเพื่อไขว่คว้าอนาคต

สิ่งนี้นำเราไปสู่แนวคิดหลักที่สามของนวัตกรรม ข้อนี้ผมชอบเรียกมันว่า “เปลี่ยนกฏเพื่อแลกประสบการณ” มันเป็นกับดักที่จะคิดว่าเราสามารถทำสิ่งที่เราเคยทำมาเสมอและยอมรับผลลัพธ์เดิม ๆ คิดให้นอกกรอบ—เปลี่ยนวิธีการปฏิบัติของคุณ เปลี่ยนหลักการของคุณ เปลี่ยนข้อจำกัดของคุณ นั่นเป็นสิ่งที่ผลักดันความก้าวหน้า

สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ในช่วง 27 ปีที่ผ่านมาของธุรกิจคือ บ่อยครั้งที่เรามักจะประเมินค่าความเสี่ยงสูงเกินไปในการลองสิ่งใหม่ ๆ แต่เราประมาทกับความเสี่ยงของการหยุดยืนกับที่

ในช่วงต้นทศวรรษ 1960 ซีอีโอของ Random House ได้ทำการพนัน เขาพนันนักเขียนเด็กเล็ก 100 เหรียญว่าเด็กคนนี้ไม่สามารถประสบความสำเร็จในการเขียนหนังสือเด็ก ด้วยการใช้คำในภาษาอังกฤษ 50 คำ ซีอีโอคนนั้นเสียเงินเดิมพันและเจ้าแห่งตำนานได้เกิดขึ้น Green Eggs and Ham จะดีขนาดนี้หรือไม่ถ้า Dr. Seuss ใช้คำศัพท์ทุกคำในพจนานุกรม มันจะมียอดขาย 200 ล้านเล่มและเปิดตัว Dr. Seuss ให้กลายเป็นหนึ่งในนักเขียนหนังสือเด็กที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์หรือไม่ ผมจะยืนยันว่าพวกเขาเปลี่ยนกฏเพื่อแลกประสบการณ์ พวกเขาสามารถใช้วิธีการอื่นซึ่งเป็นการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์

ผมเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นมือกีต้าร์แจ๊สก่อนที่จะตั้งบริษัทเทคโนโลยี ที่จริงผมเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อเรียนดนตรีและผมก็มีอาจารย์ที่คอยบังคับให้ผมถอดสายจากเครื่องดนตรี ผมต้องถอดหนึ่งสาย สองสายและบางครั้งสามสายจากกีต้าร์ คุณจะคิดได้เมื่อความสามารถของคุณถูกตัดออกไปครึ่งหนึ่ง ความคิดสร้างสรรค์ของคุณจะเริ่มตันแต่แล้วสิ่งที่น่าแปลกใจและการโต้ตอบทางสัญชาตญาณจะเกิดขึ้น เมื่อสายกีต้าร์ถูกถอดออกผมไม่สามารถพึ่งพารูปแบบที่ผมรู้ได้อีกต่อไป ผมต้องแก้ปัญหาทางดนตรีด้วยวิธีที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และผลลัพธ์คือความคิดสร้างสรรค์ของผมเกิดขึ้น

มันอาจเกิดขึ้นกับคุณเหมือนกัน เปลี่ยนกฏเพื่อแลกประสบการณ์ เปลี่ยนข้อจำกัด เปลี่ยนวิธีการของคุณ และคุณจะเป็นผู้ขับเคลื่อนโอกาสที่แท้จริง

โมโนโพลี่เป็นเกมที่ขายดีอันดับหนึ่งของ Hasbro จริง ๆ แล้วมันเริ่มขึ้นเมื่อประมาณปี 1900 ดังนั้นมันมีอายุมากกว่า 100 ปี ตอนนี้ Hasbro พยายามรักษาความมั่นคงตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีฉบับสตาร์วอร์ส์ (Star Wars) ด้วย แต่โมโนโพลี่ (Monopoly) ประสบความสำเร็จอยู่ได้อย่างไรในสภาวะแวดล้อมของเกมที่เพิ่มมากขึ้นอย่าง โพเกม่อน โก (Pokémon Go) วิดีโอเกมและ อื่น ๆ พวกเขาใช้แนวคิดนี้: เปลี่ยนกฏเพื่อแลกประสบการณ์ เร็ว ๆ นี้พวกเขามีการพูดคุยกับลูกค้าเพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และได้เรียนรู้บางอย่างที่รังควานใจพวกเขามาก ปรากฎว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้เล่น โมโนโพลี่ (Monopoly) โกง เราก็เคยทำกันมาแล้ว คุณเดินเกินตาของคุณหนึ่งหรือสองช่อง คุณหยิบเงินเกินจากธนาคาร คุณหยิบโรงแรมเกินมา

แทนที่จะพบว่าพฤติกรรมนี้น่าเกลียด Hasbro กล่าวว่า “เรามาเรียนรู้แบบนี้กัน” จากนั้นพวกเขาใช้เวลาสองปีศึกษาว่าผู้เล่นโกงอย่างไร จากการโกงเหล่านั้นพวกเขาพบวิธีการโกงถึง 15 วิธี พวกเขาคิดค้นขึ้นมาใหม่และเพิ่งเปิดตัวในช่วงฤดูร้อนนี้เป็น เวอร์ชั่นใหม่ของโมโนโพลี่ (Monopoly) ฉบับการโกง นี่เป็นการเปลี่ยนกฏ คุณยังคงเล่นเกมโมโนโพลี่ (Monopoly) อยู่ แต่คุณก็กำลังเล่นเกมที่แตกต่างออกไปด้วยการพยายามชิงไหวชิงพริบกับเพื่อนของคุณ ซึ่งสามารถส่งคุณเข้าคุกได้ถ้าพวกเขาจับได้ในระหว่างที่คุณกำลังโกงอยู่ มีวิธีการเล่นที่สนุกมากมาย คุณสามารถแสดงสิทธิ์ต่อผู้บุกรุก การโจรกรรมเอกลักษณ์ การปล้นธนาคาร มันสนุกจริง ๆ

สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ พวกเขาใช้ความสำเร็จเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ มันยังคงเปลี่ยนกฎไปเรื่อย ๆ ในทางกลับกันก็ได้รับประสบการณ์ มันเป็นผลิตภัณฑ์อันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโมโนโพลี่ (Monopoly) ตั้งแต่เกมแรกในทศวรรษที่ 1900

นี่เป็นอีกหนึ่งความสนุกสำหรับคุณ Avery’s Beverages เป็นบริษัทเล็ก ๆ บนชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา เขาทำน้ำอัดลมแบบเก่า เรากำลังพูดถึงโคล่าที่ทำเองและจินเจอร์เอลที่มีขิงจริง ๆ ใส่ไปด้วยแต่พวกเขาพบกับปัญหา จะแข่งขันกับโคคา-โคล่า และเป๊ปซี่ได้อย่างไร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมายอดขายลดลงและกำลังคิดจะปิดกิจการจนในรอบการเลือกตั้งปี 2008 พวกเขาเกิดความคิดใหม่ เขาพูดว่า “เรามาเปลี่ยนกฏเพื่อแลกประสบการณ์กัน” เราทำอะไรที่พวกบริษัทยักษ์ใหญ่ทำไม่ได้บ้าง และได้ตระหนักว่าพวกเขาสามารถทำน้ำอัดลมขนาดเล็ก ๆ ที่คนอื่นทำไม่ได้ ดังนั้นในรอบการเลือกตั้งปี 2008 พวกเขาผลิตน้ำอัดลม Barack O’Berry นอกจากนี้เขายังมีคู่แข่งอีกหนึ่งรายชื่อ John McCream เกิดอะไรขึ้น ผู้คนให้ความสนใจกับแบรนด์นี้และได้รับความสนใจจากสื่อทั้งหมด พวกเขารู้ว่ามาถูกทาง

ต่อจากนั้นพวกเขากล่าวว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราคิดค้นโซดาสำหรับเด็กอายุ 10 ขวบ” ผมหมายถึงเด็ก 10 ขวบที่ไหนที่จะไม่อยากดื่ม เอเลี่ยนสน๊อต หรือ เวิร์มอูซ เกิดอะไรขึ้น ยอดขายเพิ่มขึ้น เด็ก 10 ขวบแห่กันไปซื้อ พวกเขาไม่ต้องการดื่มโคคา-โคล่า; พวกเขาต้องการดื่ม Fungal Fruit ตอนนี้ทางบริษัทจึงตัดสินใจที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับแนวคิดที่สนุก ๆ ที่เป็นความคิดย่อย ๆ

ในปี 2016 ครบรอบการแต่งตั้งประธานาธิบดี ลองดูสิว่าพวกเขาทำอะไรกัน [ภาพ] ใช่ สนุกพอควร มี Hillary Hooch - รสชาติของเธอคือ “ความลับ” เหมือนอีเมลของเธอ ไม่เกี่ยวกับการเมืองแต่มี Trump Tonic ด้วย เกิดเป็น “grape” อเมริกา อีกครั้งในรอบการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวยอดขายของบริษัทมีการเติบโตขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณเปลี่ยนกฎเพื่อแลกประสบการณ์

Idea Bank เป็นธนาคารเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในประเทศโปแลนด์ พวกเขาเรียนรู้ว่าลูกค้าของบริษัทไม่ได้มีเวลาเดินทางไปตู้เอทีเอ็ม กฎของตู้เอทีเอ็มมีอะไรบ้าง ตู้เอทีเอ็มจะตั้งอยู่ที่ธนาคารหรือที่สนามบิน พวกเขาพูดว่า “เรามาเปลี่ยนกฎกัน” ลองมาดูตู้เอมีเอ็มของพวกเขากัน [ภาพ] เขาดัดแปลงยานพาหนะไฟฟ้าที่มีตู้เอทีเอ็มในตัว ลูกค้าสามารถสั่งได้ด้วยแอป อูเบอร์-ไลค์ (Uber-like)

มันทำงานแบบนี้ครับ คุณสั่งตู้เอทีเอ็ม คุณสามารถติดตามได้ทางโทรศัพท์มือถือ รถจะมาหาคุณ คุณทำธุรกรรมธุรกิจของคุณ แล้วรถก็จะไปเมื่อเสร็จสิ้น ถ้าคุณอาศัยอยู่ที่เมืองนั้นในประเทศโปแลนด์ คุณจะใช้บริการของธนาคารใด นี่คือสิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับตัวอย่างนี้ ไอเดียของพวกเขาไม่ได้เกิดจากการศึกษาธนาคารอื่น ๆ แต่พวกเขามองนอกกรอบ พวกเขาเห็นความสำเร็จของอูเบอร์ (Uber) และลิฟท์ (Lyft) จากตามความต้องการของลูกค้า พวกเขารับความคิดนั้นและยืมมันมา ยืมความคิดนอกกรอบและได้รับผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง

สิ่งนี้นำเราไปสู่เทคนิคต่อไป เรียกง่ายๆ ว่า "ยืมไอเดีย" แน่นอน เราควรศึกษาอุตสาหกรรมของเรา เพราะเหตุนี้เราจึงอยู่ที่นี่ แต่ในเวลาเดียวกันถ้าเราต้องการบางอย่างที่ท้าทาย บางอย่างที่แตกต่าง เราต้องมองนอกกรอบ คุณจะยืมอะไรได้บ้างจากการเดินทาง และความบันเทิง หรือการดูแลสุขภาพ หรือเทคโนโลยี หรือดนตรี กีฬา หรือศิลปะ คุณอาจพบรูปแบบโดยการมองนอกกรอปของการบริการทางการเงินที่คุณสามารถจะหยิบมันกลับบ้านได้ด้วย ไอเดียที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

เราทุกคนรู้ว่าการแข่งจักรยานในสนามมีกฏมากมาย ถ้าคุณอยู่ในอุตสาหกรรมรถจักรยาน คุณไม่สามารถผลิตรถจักรยานตามใจคุณได้ มันมีหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดมาก แต่ผมอยากแสดงให้คุณดูว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้ผลิตจักรยานชื่อ Specialized เบื่อหน่ายกับกฏเหล่านั้น พวกเขาพูดว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราจะโยนกฏทั้งหลายออกนอกหน้าต่างไปซะ เราจะสามารถผลิตจักรยานที่ดีกว่านี้ได้ไหม”

มาดูว่าพวกเขาทำอย่างไร [ภาพ]

พวกเขาผลิตจักรยาน fUCI นี่คือสิ่งที่พวกเขาทำ—มันค่อนข้างเจ๋งทีเดียว เขานำกฏทุกกฏเขียนลงกระดาษเอาไว้ ข้าง ๆ กฏเหล่านั้น พวกเขาเขียนคำถามไว้ว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราจะแหกกฏ” นี่คือส่วนที่เยี่ยมที่สุด กฏและข้อจำกัดของตัวมันเองกลายเป็นแรงบันดาลใจ ตัวอย่างเช่น กฏบอกว่าล้อจะต้องมีขนาดเดียวกันหมด พวกเขาพูดว่า “ความคิดเยี่ยม เรามาทำล้อหลังให้ใหญ่กว่ากัน; มันจะทำให้เกิดแรงฉุดมากขึ้น” กฏบอกว่า ไม่ให้มีเครื่องยนต์ พวกเขาพูดว่า “ความคิดเยี่ยม ลองใส่มอเตอร์ตรงข้อเหวี่ยงกัน มันจะช่วยเพิ่มแรงให้เมื่อเราปั่นขึ้นเนิน” พวกเขาแหกทุกกฏทีละกฎและผลิตจักรยานที่ดีกว่าเดิม เราเองก็ทำได้เหมือนกัน

สรุปได้อย่างรวดเร็วกับแนวคิดหลักที่สามของนวัตกรรม: เปลี่ยนกฏเพื่อแลกประสบการณ์ เปลี่ยนวิธีการ เปลี่ยนระเบียบการ เปลี่ยนพื้นฐานของกฎที่เราปฏิบัติเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริงให้กับธุรกิจของเรา

สิ่งนี้นำเราไปสู่แนวคิดหลักที่สี่ของนวัตกรรม ข้อนี้เกี่ยวกับการแสวงหาสิ่งที่ไม่คาดคิด เมื่อคุณมาทำงานทุกวัน มีสิ่งที่คุณคาดว่าจะต้องทำ คุณมองและทำหน้าที่ของคุณในรูปแบบหนึ่ง แต่วิธีการที่คาดเอาไว้ไม่ทำให้เกิดประวัติศาสตร์ การทำสิ่งที่ตรงข้ามจะเปิดโอกาสให้เราชนะ

ผมมีตัวอย่างสนุก ๆ ที่มาจากที่นี่ที่ LA ที่นี่ LA มีป้ายโฆษณาขึ้นว่า “หมากตาคุณเดินแล้ว BMW Audi A4 ใหม่สมบูรณ์แบบ” ผมคิดว่าประเด็นทั้งหมดคือ BMW จะสามารถตอบโต้ได้อย่างไร มันเป็นรถใหม่ที่เจ๋งมาก แต่ BMW เป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ BMW รู้วิธีหาสิ่งที่ไม่คาดคิด ภายในเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ ป้ายโฆษณาที่เหมือนกันในระดับเดียวกัน BMW โต้ดอบว่า “รุกฆาตไ ผมไม่คิดว่านั่นคือสิ่งที่ Audi หวังไว้

คราวนี้เป็นทีของ Audi บ้าง พวกเขาจะทำอย่างไร สิ่งที่คาดได้คือ พวกเขาจะต้องเรียกทนาย แล้วสิ่งที่ไม่ได้คาดไว้ล่ะ สองวันต่อมา บนป้ายโฆษณาถัดไป Audi ตอบว่า “เบี้ยหมากรุกของคุณไม่คู่ควรกับพระราชาของเรา” มันกลายเป็นการเปิดสงครามป้ายโฆษณาของ LA ทั้งสองบริษัทยังคงใช้ป้ายโฆษณาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเอาชนะกันและกัน เอาจริง ๆ คือ ชนะทั้งคู่เพราะพวกเขาทั้งสองรู้วิธีการแสวงหาสิ่งที่ไม่คาดคิด หลังจากนั้นสักพักก็มีอะไรแปลก ๆ

ในที่สุดแล้ว Audi ชนะ นี่คือเหตุผล ชุดป้ายโฆษณาล่าสุดไม่ได้สร้างโดยเอเจนซีโฆษณาของพวกเขา Audi ยังคงแสวงหาสิ่งที่ไม่คาดคิด พวกเขาเปิดตัวบนโซเชียลมีเดีย แล้วเชิญชวนลูกค้าแสดงความคิดเห็น หลายพันคนส่งเข้ามา หลายความคิดได้กลายเป็นป้ายโฆษณา คิดดูครับ ดึงดูดลูกค้ามากจนทำให้ลูกค้าเป็นผู้เขียนโฆษณา ที่เยี่ยมที่สุดคือ Audi ไม่ได้ตั้งใจว่าจะทำแบบนั้นเลย สักนิด พวกเขามีความคิดที่แตกต่างออกไปมากที่ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ แต่เนื่องจากเขารู้วิธีหาสิ่งที่ไม่คาดฝัน พวกเขาจึงสามารถพลิกผันวิกฤตให้เป็นชัยชนะ

นี่เป็นเทคนิคที่ดีสำหรับคุณ เมื่อเราตัดสินใจแล้ว แม้กระทั่งการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน วิธีการทำงานของจิตใจคือ เราได้จำกัดขอบเขตตัวเลือกไปแล้ว เรามักจะพูดกับตัวเองว่า ฉันสามารถทำ A, B, หรือ C และเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดของเราแล้วทำมัน นี่คือคำแนะนำของผม แทนที่จะเลือกอะไรง่าย ๆ จาก A, B, หรือ C คุณลองถามตัวเอง เดี๋ยวก่อน มี D ไหม มี E ไหม หรืออย่างที่ผมชอบพูด มีตัวเลือก X ไหม ตัวเลือก X เป็นตัวที่ไม่ได้คาดคิด เป็นตัวแหกกฏ ความคิดสร้างสรรค์เล็ก ๆ น้อย ๆ ความคิดที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป

ถ้าคุณได้นั่งข้าง ๆ ลูกค้ารายใหญ่คนถัดไปบนเครื่องบินตัวเลือก A คือ: นั่งลงแล้ว ขาย ขาย ขาย สำหรับตัวเลือก X คือ: สละที่นั่งให้ภรรยาเขา

นี่เป็นตัวอย่างจักรยานอีกตัวอย่างสำหรับคุณครับ เรียกว่า VanMoof [ภาพ] มันไม่ใช่จักรยานแข่ง เป็นจักรยานไฟฟ้าแบบไฮบริดที่ใช้สำหรับการเดินทางในเมือง ถ้าคุณอาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่ง นิวยอร์ก มิลาน หรือโตเกียว คุณอาจจะขี่มันไปทำงาน ผู้นำของบริษัทประสบปัญหา จักรยานเหล่านี้ได้รับความเสียหายจากการขนส่งในอัตราที่สูงมาก มันถูกส่งโดยตรงให้กับลูกค้าในกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่และได้รับความเสียหาย ผู้นำของบริษัทได้มารวมตัวกันและพูดว่า “เราต้องแก้ปัญหานี้ เราจะทำอย่างไรดี” พวกเขาเริ่มระดมความคิดและได้ความคิดที่ควรทำก่อน บางคนพูดว่า “เราควรใช้วัสดุบรรจุให้หนาขึ้น” แต่มันมีค่าใช้จ่าย อีกคนพูดว่า “ถ้าเราใช้บริการจัดส่งของ white glove ล่ะ” แต่มันมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นไปอีก นั่นคือจุดที่เราส่วนใหญ่หยุด ความคิดที่ควรทำและง่าย ๆ A, B, หรือ C แต่พวกเขาก็ยังคงคิดต่อไป พวกเขาต้องการสิ่งที่โก้เก๋ เขาต้องการตัวเลือก X

ผู้นำคนหนึ่งพูดว่า “ขอเวลานอกหน่อย ลองคิดถึงทีวีจอแบนสักนิด ทีวีจอแบนมีขนาดพอ ๆ กับกล่อง น้ำหนักประมาณเดียวกัน พวกเขาจัดส่งทีวีจอแบนกันอย่างไรทุกวันโดยไม่ได้รับความเสียหาย แต่ทำไมจักรยานของเราจึงมีปัญหา” มันนำไปสู่ความคิดที่เจ๋งทีเดียว เขาไม่ได้เปลี่ยนวัสดุ เขาไม่ได้เปลี่ยนการบริการจัดส่ง เขาไม่ได้เปลี่ยนอะไรสักอย่าง นอกจากพิมพ์คำว่า จอแบน ลงบนกล่องเท่านั้นเอง จักรยานเดิม กล่องเดิม เพิ่มหมึกนิดหน่อย และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นอัตราความเสียหายลดลง 70 เปอร์เซ็นต์ มันน่าอัศจรรย์มากกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเรานำตัวเลือก X ออกมาใช้

ผมแน่ใจว่าคุณรู้ไหมว่า TNT เป็นเครือข่ายโทรทัศน์ พวกเขาต้องการที่จะเปลี่ยนโฉมให้เป็นเครือข่ายละครโทรทัศน์แต่ไม่สามารถเปลี่ยนโฉมทั่วโลกได้ พวกเขาจึงต้องแสวงหาสิ่งที่คาดไม่ถึง มาดูว่าเขาทำอย่างไร [วิดีโอ]

สุดยอดใช่ไหม เรามาลองคิดเป็นตัวเลขกัน คุณต้องการเข้าถึงผู้คนหลายสิบล้านคน ตัวเลือก A คือ: ออกโฆษณาทางโทรทัศน์ที่แพงมาก ๆ ตัวเลือก X คือ: จ้างนักแสดงและทีมถ่ายภาพยนตร์ในเมืองเล็ก ๆ ในยุโรป มันไม่ใช่แค่ 200 คนที่เห็นบนจอทีวีในวันเดียวแต่เป็นคน 56 ล้านคนที่เห็นมันออนไลน์ 56 ล้านคนที่รู้แล้วว่า TNT เป็นช่องเกี่ยวกับละคร นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราหาสิ่งที่ไม่คาดคิด

นี่เป็นตัวอย่างสุดท้ายสำหรับคุณ โรงพยาบาลเด็ก UPMC ของพิตส์เบิร์ก (Pittsburgh) ใครเป็นลูกค้าของที่นี่ เด็กที่ป่วยและครอบครัวต่าง ๆ ผู้นำของโรงพยาบาลต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าเหล่านั้น สิ่งที่คาดคิดได้: หมอนที่นุ่มกว่าเดิม สิ่งที่คาดไม่ถึงล่ะ นี่คือคนทำความสะอาดหน้าต่าง [ภาพ] นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาให้คนทำความสะอาดหน้าต่างแต่งตัวเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ประสิทธิภาพในการทำงานไม่เสียหาย แต่ในขณะที่พวกเขาโรยตัวลงมาจากหลังคา พวกเขาทำให้เด็ก ๆ สนุกเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

มันดึงเอาความสนใจออกจากการดูแลทางการแพทย์ เด็ก ๆ ตั้งตาคอยไปอีกหลายวัน เด็ก ๆ ลืมไปเลยว่ามาที่นั่นทำไม สิ่งที่เกิดขึ้นมันสุดยอดมากเลยใช่ไหม เมื่อเรามองหาสิ่งที่ไม่คาดคิด ผมจะบอกคุณอะไรบางอย่าง เราทุกคนที่อยู่ที่นี่วันนี้ ทุกคนมีความคิดนี้ในตัวอยู่แล้ว ผมอยากจะพูดว่าถ้าคุณยังหายใจอยู่ คุณมีความคิดสร้างสรรค์ครับ มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะนำมันออกมาแล้วใช้มัน ถ้าคุณอยากเห็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม

บทสรุปของข้อสี่คือ แสวงหาสิ่งที่ไม่คาดคิด มองหาตัวเลือก X กล้าและแหกกฏ นั่นคือสิ่งที่จะเป็นแรงผลักดันสูงสุดในการเป็นมืออาชีพและแม้กระทั่งในชีวิตส่วนตัวของเราด้วย

สิ่งนี้นำเราไปสู่แนวคิดหลักที่ห้าและสุดท้ายของนวัตกรรม เรื่องนี้อิงจากสุภาษิตเซน (Zen) ที่กล่าวว่า “ล้ม 7 ลุก 8”

เมื่อคุณคิดถึงนวัตกรรมคุณอาจคิดว่าคุณต้องการเงินเป็นจำนวนมาก แต่ความจริงก็คือโครงสร้างที่แท้จริงของนวัตกรรมคือ ภายใน ความแข็งแกร่ง ความมุ่งมั่น การยืนหยัด ความยืดหยุ่น สู้กลับด้วยความคิดสร้างสรรค์ให้มากขึ้นเมื่อคุณเผชิญหน้ากับความล้มเหลวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำมากขึ้นด้วยการทำน้อยลง การมีบ้างขาดบ้างคือเหตุผลที่ทำให้ผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจสามารถเอาชนะวงการอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ได้ คุณล้มเจ็ด ยืนแปด

ทางตะวันออกของประเทศจีน เคเอฟซี (KFC) เปิดสาขาขึ้นและแจ๊คก็มีความสุขมาก ไม่ใช่เพราะแจ็คชอบกินไก่ แจ๊คหวังจะได้ทำงาน ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาแจ๊คสมัครงานไว้หลายแห่ง แต่เขาได้รับคำตอบแบบเดียวกัน “ไม่” และ “คุณไม่มีศักยภาพ” เขาพูดว่า “เขาน่าจะกลับไปเรียนมหาวิทยาลัย” เขาสมัครไปสามแห่ง เขาได้รับคำตอบแบบเดียวกัน “ไม่ คุณไม่มีศักยภาพ” มีผู้สมัครเข้าทำงานที่เคเอฟซี (KFC) 24 คนและได้งาน 23 คน ทุกคนยกเว้นแจ๊ค แต่แจ็คเชื่อด้วยหัวใจว่าล้มเจ็ดครั้ง ยืนแปดครั้ง และเมื่อคุณลุกขึ้นมา คุณจะลุกขึ้นมาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และวันนี้แจ็ค หม่าเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในจีน และเมื่อเช้านี้มูลค่าสุทธิของเขาอยู่ที่ 40 พันล้านเหรียญ สำหรับผู้ที่ไม่รู้จักเขา เขาเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นซีอีโอของ Alibaba และ Amazon ของประเทศจีน

เราเห็นเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาเหล่านี้แต่เรื่องนี้ใช้กับเราได้เช่นกัน คนที่ธรรมดาอย่างพวกเรานี่แหละ เพราะเรามักจะประสบปัญหาอยู่เสมอ ถ้าคุณไม่สะดุด แปลว่าคุณยังเร็วไม่พอ แต่เมื่อคุณสะดุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลุกขึ้นมาพร้อมกับความคิดใหม่ ๆ แทนที่จะนั่งจมปลักอยู่อย่างนั้น นั่นคือสิ่งที่จะทำให้เราชนะ ปีแล้วปีเล่า และทศวรรษต่อ ๆไป

อย่างที่ผมบอกหลายครั้ง ผมมาจากดีทรอยต์ มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณลุกขึ้นมา ในช่วง 30 ถึง 40 ปีที่ผ่านมา เมืองของเราประสบปัญหาอย่างมาก คุณบอกปัญหามา เรามีหมด เมืองของเราพังทลาย ล้มละลาย อาชญากรรม เอ่ยชื่อมา แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณบางคนอาจจะรู้แล้ว เมืองของเราได้ยืนหยัดขึ้นมาจากการเป็นเถ้าถ่าน สิ่งดี ๆ กำลังเกิดขึ้น เพราะเราและชุมชนได้อ้าแขนรับหลักการนี้ไว้ ล้มเจ็ดครั้ง ยืนแปด หรือที่เราชอบพูดว่า ดีทรอยต์ปะทะกลับแรงกว่า

นี่เป็นตัวอย่างของสิ่งที่เราทำอยู่ และผมก็เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ในสิ่งนี้ หุ้นส่วนของผมและผมต้องการที่จะตอบแทนสังคม เราจึงลงทุนในกองทุนร่วมทุนเพื่อให้ผู้ประกอบการที่หลงรักด้านเทคโนโลยี เราพูดว่า “บางทีเราอาจจะทำเงินได้บ้าง แต่ที่สำคัญกว่าคือ เราอาจจะสร้างความแตกต่าง” เราซื้อตึกนี้ในปี 2010 [ภาพ] มันว่างเปล่ามาเป็นเวลา 20 ปี เราได้สร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยหล่อเลี้ยงความคิดสร้างสรรค์ เราเริ่มลงทุนกับผู้ประกอบธุรกิจ ให้เงิน ให้การสนับสนุน ให้การฝึกฝนและให้คำปรึกษา ตัวอาคารเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจและในความคิดของผู้คน

เราได้ทำสิ่งที่สนุก ๆ มีดาดฟ้าเพื่อให้คนสามารถทำงานข้างนอกในช่วงฤดูร้อน และมีแม้กระทั่งอัฒจันทร์เพื่อเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ในปี 2010 เมื่อเราเปิดกองทุนนี้ ไม่มีใครสนใจที่จะเปิดธุรกิจเทคโนโลยีเลยในเมืองดีทรอยต์ คิดดูสิ เมืองใหญ่ของสหรัฐแต่ไม่มีใครสนใจที่จะตั้งบริษัทเทคโนโลยีเลย ทุกวันนี้ภายในตึกสี่เหลี่ยมของอาคารเรามีทั้งหมด 70 คน มีผู้ประกอบการกว่า 1,000 คนที่กำลังรับประทานอาหารในร้านอาหารและซื้ออพาร์ทเมนท์ในท้องถิ่น เราให้การสนับสนุนสี่คนนี้ที่ชื่อ Detroit Labs เมื่อสองปีก่อน [ภาพ] วันนี้พวกเขาจ้าง 150 คนในเมืองดีทรอยต์

ผมไม่คิดจะเอาความชอบจากการฟื้นตัวของดีทรอยต์ มีหลายคนที่ทำสิ่งที่สำคัญกว่าที่ผมทำ ผมแค่อยากจะยกตัวอย่างของ “ล้มเจ็ด ยืนแปด” และถ้าคุณลุกขึ้นมาพร้อมกับความคิดใหม่ ๆ ที่มากพอ สิ่งเหลือเชื่อจะเกิดขึ้น

หลักการที่ห้าของเรา ล้มเจ็ด ยืนแปด—ลุกขึ้นจากความทุกข์ยากด้วยจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในชีวิตประจำวัน

เราได้รับข้อมูลมากพอแล้ว ผมรู้ว่ามันสนุกและสำคัญที่เรามาอยู่ที่นี่ใน LA แต่เราจะนำไปปฏิบัติอย่างไร เราจะนำมันกลับมาได้อย่างไร ผมอยากจะเล่าเรื่องสุดท้ายให้คุณเพื่อเป็นข้อสรุปง่าย ๆ

ผู้ชายคนนี้ชื่อ Coss Marte [ภาพ] Coss เติบโตขึ้นมาทางฝั่งตะวันออกของแมนฮัตตันในนิวยอร์กด้วยสภาพที่แย่มาก เขาได้รับการเลี้ยงดูที่ต่ำกว่าคำจำกัดความของคำว่ายากจน เขาเรียนกับระบบโรงเรียนที่ล้มเหลว ได้รับอิทธิพลจากเพื่อนที่แย่ ๆ และจบลงด้วยการมีปัญหา เขาลองเสพยาครั้งแรกเมื่ออายุ 11 เมื่ออายุ 13 เขาขายมัน Coss เป็นชายหนุ่มที่กล้าได้กล้าเสีย ตอนอายุ 19 เขามีธุรกิจ 2 ล้านเหรียญต่อปี แต่แล้วเขาก็พบกับภาระการกำกับ ตำรวจนิวยอร์กเข้ามาปิดธุรกิจยาของ Coss และส่งเขาเข้าคุกเป็นเวลาเจ็ดปี

ช่วงเวลานั้น Coss มีน้ำหนักเกิน สุขภาพของเขาย่ำแย่ ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง เขาดันมีปัญหากับผู้คุมนักโทษและถูกส่งตัวไปขังเดี่ยวเป็นเวลาสามสัปดาห์ ที่นี่เขาอยู่ในกรงคอนกรีตในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เราจะนึกได้ [ภาพ] เขารู้สึกสิ้นหวัง หนาวและหวาดกลัว เพียงเพื่อให้เวลาผ่านไปเพราะเขาไม่รู้ว่าจะทำอะไร เขาเริ่มออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักตัวของตัวเองทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ช่วยให้เขาผ่านเวลาสามสัปดาห์แห่งนรกนี้ไปได้

ในที่สุดเขาก็กลับไปในเรือนจำปกติ เขาพยายามรักษามันเอาไว้ เขาออกกำลังกายต่อไป เขาไปที่ห้องสมุดในเรือนจำและเรียนรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายและโภชนาการ หลังจากหกเดือนน้ำหนักของเขาลดลง 70 ปอนด์ เมื่อผู้ต้องขังคนอื่นเห็นการเปลี่ยนแปลงจึงขอความช่วยเหลือจากเขา กลายเป็นว่า Coss ใช้เวลาที่เหลืออยู่ในคุกช่วยผู้ต้องขังคนอื่นดูแลตัวเอง เพื่อให้สภาพร่างกายแข็งแรง และรู้จักการควบคุมตัวเอง

เมื่อเขาออกจากคุก เขาก็เจอกับปัญหาอีกอย่าง เขาได้จ่ายหนี้ให้กับสังคมแล้ว เขาต้องการจะทำในสิ่งที่ถูกต้องแต่การหางานสำหรับคนที่เคยติดคุกนั้นยากมาก เขาสมัครไปทุกที่ที่รู้จักแต่ไม่มีใครตอบรับเขา ถึงตอนนี้เขากำลังหมดทางเลือกและหมดเวลา แต่ความคิดสร้างสรรค์ของเขาไม่ได้หมดไป

เขาหันไปใช้ 5 ความคิดของนักนวัตกรรม คุณจะเห็นว่าไม่ได้ใช้เพียงกับคนเก่งด้านเทคโนโลยีจากดีทรอยต์เท่านั้น มันใช้ได้กับเราทุกคนทั้งในเรื่องส่วนตัวและในอาชีพ และนี่คือสิ่งที่ Coss ทำ เขาเชื่อว่าทุกอุปสรรคสามารถฝ่าฟันไปได้ เขาไม่ได้เสียเวลาคิดว่ามันไม่สามารถทำได้ เขามุ่งหน้าทำมัน วิดีโอฆ่าดาววิทยุ เขารู้ว่าวิธีการเดิมใช้ไม่ได้ผล เขาต้องคิดอะไรสักอย่างที่ใหม่ เขาต้องใช้ จูโดฟลิป เขาต้องเปลี่ยนกฏเพื่อแลกประสบการณ์ เมื่อออกจากคุก จะมีคนบอกคุณว่ามีหลายอย่างที่คุณสามารถทำได้ Coss ไม่เห็นด้วย เขาต้องแสวงหาสิ่งที่คาดไม่ถึง เขาต้องผลักดันขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ กล้าทำและสร้างตัวเลือก X เขาล้ม แต่เขาก็ลุกขึ้น

Coss คิดว่าตอนที่อยู่ในคุก เขาได้ช่วยให้คนมีรูปร่างดี เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญ เขาน่าจะสร้างยิมออกกำลังกาย ความคิดเข้าท่า แต่จะมีผู้ให้เช่าคนไหนให้กุญแจกับชายคนนี้ อีกครั้งที่เขาใช้ความคิดหลัก เขาขอร้องผู้ให้เช่าที่ทั่วทั้งเมือง แต่เขาตั้งเป้าเอาไว้ ล้มเจ็ด ยืนแปด จนกระทั่งมีคนหนึ่งที่พูดว่า ได้ เป็นมุมเดียวกับที่เขาเคยขายยาในแมนฮัตตันตอนล่าง

ตอนนี้เขามีที่แล้วแต่เขาพูดว่า “ผมจะแข่งกับ ยิมยักษ์ใหญ่ได้อย่างไร” เขาหันกลับไปใช้ความคิดหลัก “จะแสวงหาสิ่งที่คาดไม่ถึง” แทนที่จะเปิดโรงยิมที่มีลักษณะเหมือนกับยิมอีก 700 แห่ง Coss จึงเปิดโรงยิมแห่งแรกของโลกที่มีเรือนจำเป็นธีม ยินดีต้อนรับสู่ ConBody เข้าจำคุกซะ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น คุณจะได้เห็นตึกเรือนจำ คุณเดินผ่านประตูเข้าไปเพื่อฝึกซ้อมที่สนาม ไม่มีอุปกรณ์ที่แหวกแนวอะไร เป็นเครื่องออกกำลังกายแบบเดียวกับที่เขาได้พัฒนาขึ้นในคุก และคนที่นี่ไม่เพียงแต่ได้ออกกำลังกายแต่พวกเขาก็ได้สนุกกับมันด้วย สมาชิกที่นี่ไม่ได้เรียกว่าสมาชิก แต่ถูกเรียกว่า ผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังไม่เพียงแต่ออกกำลังกายแต่ได้ถ่ายรูปแบบนี้และได้โพสต์ออนไลน์ [ภาพ] ทุกมุมของห้องออกกำลังกายสร้างสรรค์และไร้ขีดจำกัด แม้แต่พนักงานของเขา แทนที่จะจ้างคนจากอุตสาหกรรมการออกกำลังกายและโภชนาการ พนักงานทุกคนที่ ConBody เคยถูกคุมขังมาก่อน ตั้งแต่พนักงานต้อนรับจนถึงครูฝึกส่วนตัว เพราะยิมนี้เป็นของแท้ ท้าทายและสร้างสรรค์ มันจึงประสบความสำเร็จ

ผมได้คุยกับ Coss เมื่อเดือนที่แล้ว เขาบอกว่าเขามีสมาชิกที่จ่ายเงินถึง 10000 คนในนิวยอร์ก เมื่อคนทั่วโลกได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาบอกว่าพวกเขาต้องการร่วมสนุกด้วย ตอนนี้เขาสอนหลักสูตรออนไลน์โดยจ่ายเงินค่าเรียนและมีสมาชิกที่จ่ายเงินถึง 22 ประเทศ

เมื่อเขาเปิด ConBody แห่งที่สอง แต่แทนที่จะเปิดในตึกเก่า ๆ เขาเปิดที่ Saks Fifth Avenue ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกที่หรูมากในนิวยอร์ก คิดดูสิ Coss มาจากจุดที่ต่ำที่สุดในโลกสู่ระดับความสำเร็จที่ไม่สามารถจินตนาการได้โดยการรวบรวมความคิดหลักเหล่านี้ไว้ นี่คือสิ่งที่ Coss ทำในช่วงเวลาที่แย่ที่สุด คิดถึงสิ่งที่เราทำได้ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดสิ

ดังนั้นเพื่อการเดินทางต่อ ใช้แนวคิดในการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อผลักดันชีวิตส่วนตัวและอาชีพของคุณ ผมจึงรวบรวมบางอย่างไว้ให้คุณ อีก 21 วันถัดไป ถ้าคุณเลือก คุณจะได้รับอีเมลวันละครั้งพร้อมเรื่องราว เทคนิค ความคิดที่จะช่วยเติมเชื้อเพลิงของความคิดสร้างสรรค์ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ เขียนข้อความว่า innovate ส่งไปที่ 345345 ไม่ใช่ช่องทางการขาย ไม่มีอะไรให้ซื้อครับ แต่มันจะทำให้คุณได้รับแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในอีก 21 วัน มีคนบอกว่าการสร้างนิสัยจะใช้เวลา 21 วันและผมหวังว่าคุณจะสร้างนิสัยของนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมประจำวัน ส่งข้อความด้วยคำ innovate ส่งไปที่ 345345

ผมอยากจะให้ความคิดสุดท้ายกับคุณ ความท้าทายด้านนวัตกรรมในนามของ MDRT ในอีกเจ็ดวันข้างหน้าในขณะที่แนวคิดเหล่านี้ยังคงสดใหม่ในใจของคุณ ดูว่าคุณสามารถคิดไอเดียสำหรับความคิดสร้างสรรค์ที่สร้างโอกาสได้ไหม ไม่จำเป็นต้องใหญ่โตมาก อาจเป็นความแตกต่างในวิธีที่คุณส่งอีเมลหรือวิธีที่คุณรับโทรศัพท์ แต่ถ้าคุณอนุญาตตัวเองให้เกิดความคิดใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น

ไอเดียเป็นโรคติดต่อ หนึ่งความคิดจะกลายเป็นหกความคิด จะกลายเป็นความคิดที่สิบเอ็ด คิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เหล่านี้จะล้นออกไปสู่ผู้ที่อยู่รอบตัวคุณ เมื่อคุณนำความคิดเพียงอย่างเดียวออกมา คุณจะสร้างแรงผลักดัน แรงผลักดันนั้นจะเป็นสิ่งที่หยุดไม่ได้

โลกที่เราอยู่ในตอนนี้แตกต่างจากที่พ่อผมเคยอยู่ในสายงานนี้มากในปี 1980 วันนี้การเดิมพันไม่เคยสูงเท่านี้ การคุกคามไม่เคยมากเท่านี้ การแข่งขันไม่เคยรุนแรงเท่านี้ แต่ผมเชื่อว่าโอกาสไม่เคยล้ำลึกมากเท่านี้ มาฉวยโอกาสกันเถอะ มาทำให้วันนี้เป็นวันที่เรากระโดดออกจากตรงนี้กัน เวลามาถึงแล้ว ถึงเวลาที่เราจะสร้างสรรค์ของขวัญที่เรามีกันทุกคน ถึงเวลาแล้วที่จะขยายขอบเขตและแสวงหาสิ่งที่ไม่คาดฝัน ถ้าเราล้มลงเจ็ดครั้ง ให้เรากลับขึ้นมายืดแปดครั้ง ถ้าเราสามารถทำเช่นนั้นด้วยกันในฐานะครอบครัวของ MDRT เราจะคว้าโอกาสมหาศาลที่รอเราอยู่นอกประตูนั่น

Josh Linkner เป็นผู้ก่อตั้ง และ CEO ของบริษัทเทคโนโลยีห้าแห่ง ซึ่งขายไปในราคารวม 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เขาเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีของ New York Times สองเล่ม และเป็นหุ้นส่วนผู้ก่อตั้ง Detroit Venture Partners Linkner ได้เป็นผู้ประกอบการแห่งปีของ Ernst & Young สองสมัย ทั้งยังเป็นผู้เขียนคอลัมน์ประจำในนิตยสาร Forbes, the Detroit Free Press, and Inc. งานเขียนเรื่องนวัตกรรมของเขาได้เผยแพร่ใน Wall Street Journal, Harvard Business Review และ CNN