
ผมอยากเริ่มด้วยคำถาม เมื่อเราเกิดเรามีอิสระที่จะทำทุกสิ่งที่เราต้องการไหม คำตอบคือ ไม่ การมีตาที่ประสบความสำเร็จ ที่สุดและพ่อที่ประสบความสำเร็จยิ่งกว่า ผมจะไปไหนได้ล่ะ ผมไปไหนไม่ได้ และทุกคนที่ผมพบเจอคือ นักบินอวกาศ นักสำรวจที่สอนผมให้มองวิสัยทัศน์ของโลก และผมก็อยากจะไปให้ถึงมาก แต่ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ดังนั้นผมจึง เริ่มจากการเล่นกีฬา แต่ผมแย่มากจนครูบอกว่าผมเป็นคนพิการทั้งทางด้านจิตใจและทางด้านร่างกาย และผมจะไม่มีวัน ทำอะไรสำเร็จ ผมจึงพยายามพิสูจน์ตัวผมเองและเริ่มบินกับเครื่องร่อน
ในตอนแรกมันไปได้ค่อนข้างดี ผมกลายเป็นแชมป์แอโรเบทิคของยุโรปจนกระทั่งในช่วงการสาธิตเครื่องร่อนของผม พังกลางอากาศ สายเคเบิลและท่อกระแทกเข้าหน้าผม มีเลือดเต็มไปหมด ผมไม่สามารถมองเห็นอะไรเลยจนกระทั่ง ด้วยปาฏิหาริย์ร่มชูชีพก็เปิดออกและช่วยชีวิตผมไว้ มันเป็นวันที่ - ลูกสาวคนแรกของผมอายุหกเดือน - ผมคิดว่า บางทีฉัน ควรจะกลับไปทำงานเดิมซึ่งคือการเป็นจิตแพทย์ แต่ทุกคนก็บอกผมว่า “คุณมีประเพณีของครอบครัวที่ต้องเดินรอยตาม ทำไมคุณถึงเสียเวลากับการเป็นหมอที่ใครๆ ก็ทำได้”
ผมจึงพยายามกลับไปผจญภัยอีกครั้ง ผมริเริ่มโครงการบินรอบโลกคนแรกโดยไม่หยุดพักในบอลลูนชื่อ Breitling Orbiter และหลังจากบอลลูนขึ้น ไม่ใช่หลังจากผ่านไปสามสัปดาห์ตามที่วางแผนเอาไว้ แต่แค่หกชั่วโมงผมลงจอดในน้ำ ร้องไห้ เหมือนเด็กๆ ที่บอลลูนจมน้ำและแคปซูลเต็มไปด้วยน้ำทะเล ผมลองใหม่อีกครั้งกับ Breitling Orbiter 2 แต่ไม่ได้รับอนุญาต ให้บินข้ามประเทศจีน ผมต้องจอดประเทศพม่า นี่เป็นความล้มเหลวครั้งที่สอง และในความพยายามครั้งที่สามร่วมกับ Brian Jones เป็นเพื่อนชาวอังกฤษ เราบินรอบโลกสำเร็จ
แต่ด้วยโพรเพนเหลว 3.7 ตัน เรามีเหลือเพียง 40 กิโลกรัมจากที่เห็นน้ำค้างแข็งในถังสุดท้าย [ภาพ] มันคือปาฏิหาริย์ เพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่เราประสบความสำเร็จได้ แคปซูลบอลลูนของผมถูกนำไปที่ Smithsonian National Air and Space Museum ใน Washington D.C. และแน่นอนว่าผมภูมิใจเพราะเป็นสถานที่จัดแสดงยานอวกาศและเครื่องบินจากวีรบุรุษใน วัยเด็กของผม แต่มันก็กลายเป็นอดีตที่อยู่ ในพิพิธภัณฑ์ แล้วอนาคตล่ะคืออะไร
ผมจึงเริ่มฝันที่จะทำสิ่งเดียวกันนั่นคือ การบินรอบโลก แต่คราวนี้ไม่มีโพรเพน ไม่มีเชื้อเพลิงเลย และนั่นคือ ความฝันในการผลิต เครื่องบินพลังงานแสงอาทิตย์ การสาธิตเพื่อพิสูจน์ว่าคุณสามารถบินได้โดยไม่ทำให้เกิดมลพิษ ใช้เวลาหลายปีกว่าจะ ได้สปอนเซอร์ มันแพงกว่าที่ผมคิดไว้ถึงสี่เท่า มันใช้เวลานานกว่าที่ผมคิดไว้สองเท่าและมีคนบอกผมว่า “ไม่สำเร็จหรอก คุณบ้าไปแล้วที่คิดจะทำอะไรแบบนี้” ทำไมมันถึงยากงั้นเหรอ เพราะเครื่องบินจำเป็นต้องมีปีกขนาดจัมโบ้เจ็ต แต่มีน้ำหนัก ประมาณรถครอบครัว ไม่มีใครอยากสร้างเครื่องบินนั่น พวกเขาบอกว่า “เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเครื่องบินแบบนี้” ผมต้องยอมรับ ผมรู้สึกเหมือนดัมโบ้ คุณจำดัมโบ้ได้ไหม เจ้าช้างตัวเล็กที่น่าสงสารที่มีหูใหญ่มโหฬารจนลากพื้น ทุกคนล้อมัน
มันเป็นความรู้สึกเดียวกับผมที่มีปีกขนาดใหญ่ที่ต้องสร้างเพื่อใช้กับเครื่องบินพลังงานแสงอาทิตย์ มันสร้างยากมาก คุณพอจะนึกออกใช่ไหม มันเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ แต่เราต้องทดสอบความแข็งแรงของปีกยาวทั้งสองจนมันหัก คุณลองนึกภาพ ว่าคุณมีทีมงาน ใช้เงินทั้งหมด ความหวังทั้งหมดแล้วปีกของคุณหัก และคุณต้องสร้างมันใหม่อีกครั้ง สร้างมันให้ดีขึ้น ในที่สุด เราก็พร้อมที่จะบินไปทั่วโลก แต่เมื่อถึงครึ่งทางไปถึง Hawaii แบตเตอรี่ก็ร้อนจัด เราต้องอยู่ที่นั่นเก้าเดือน เครื่องบินอยู่ใน โรงเก็บ ทิ้งเอาไว้ และอีกครั้งที่ได้กลิ่นแห่งความล้มเหลว
ในแง่ของความล้มเหลว ผมคิดว่าการบรรยายของผมเป็นตัวอย่างที่ดี เมื่อผมอธิบายสิ่งต่างๆ แบบนั้น มันอาจเป็นการบรรยายที่ แย่ที่สุดเท่าที่ผมเคยบรรยายมาในชีวิตของผม ผมขออนุญาตเริ่มใหม่อีกครั้ง ผมถามคำถามเดิมอีกครั้ง เมื่อเราเกิดเรามีอิสระที่ จะทำทุกสิ่งที่เราต้องการไหม แน่นอนคำตอบคือ ใช่ การมีตาที่ประสบความสำเร็จที่สุดและพ่อที่ประสบความสำเร็จยิ่งกว่า มันเป็นแรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยมสำหรับผมที่จะทำอะไรบางอย่าง แน่นอนว่า มันไม่ใช่ภาระ อาจจะเป็นภาระ แต่เป็นแรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยม ทุกคนที่ผมพบเจอคือ นักบินอวกาศ นักสำรวจและพวกเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ฉัน พวกเขาให้ไฟในตัวผมที่จะสำรวจสิ่งที่เกินจินตนาการ สำรวจในสิ่งที่ไม่รู้เพื่อทำความเข้าใจวิธีใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตและการคิด
เนื่องจากผมเล่นกีฬาไม่เก่ง และครูบอกว่าผมเป็นคนพิการทั้งทางด้านจิตใจและทางด้านร่างกาย มันเป็นกำลังใจที่ยอดเยี่ยม ในการทำสิ่งที่พิเศษมากกว่าแค่กีฬาธรรมดา ผมจึงเริ่มบินเครื่องร่อนเพราะมันคือจุดเริ่มต้นของกีฬาในยุโรป มันใหม่มาก มันคือ การบุกเบิกที่ผมต้องการในชีวิต ผมเรียนรู้วิธีแอโรเบทิค มันเยี่ยมมากเพราะไม่ใช่สิ่งที่คุณบินด้วยเครื่องมือ มันเป็นสิ่งที่คุณบิน ด้วยสัญชาตญาณความรู้ สติ และความตื่นตัว คุณแค่รู้สึกถึงลม คุณรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนของปีก และถ้าคุณเป็นคนสัมผัสไว และมีสัญชาตญาณ คุณจะประสบความสำเร็จได้ ผมกลายเป็นแชมป์แอโรเบทิคของยุโรปจนกระทั่งผมประสบอุบัติเหตุ เครื่องร่อนของพังกลางอากาศ แต่ ณ ตอนนั้น ผมเข้าใจบางสิ่งที่น่าหลงใหล
มันคือความแตกต่างระหว่างการมีชีวิตกับความตาย มันคือความแตกต่างระหว่างการตื่นตระหนก - และหากคุณตื่นตระหนก คุณจะตาย - และการรู้ตัวมีสติกับสิ่งที่เกิดขึ้น และตอนที่ผมหมุนอยู่กลางอากาศกับเครื่องร่อน ทันใดนั้นผมก็มีสติและไม่รู้สึก ว่ากำลังหมุนอยู่กลางอากาศอีกต่อไป ผมแค่เห็นท้องฟ้าหมุนรอบตัวผม และผมรู้สึกสงบนิ่ง ผมจับที่ดึงร่มชูชีพแล้วโยนมันออก ไป ร่มเปิดและผมก็ลงจอดอย่างปลอดภัย
ในขณะนั้นผมเข้าใจว่าเรามีพลังในฐานะมนุษย์มากกว่าที่เราคิดมากแค่ไหน เราตายได้ แต่เราก็มีชีวิตได้ เราสามารถล้มเหลว แต่เราก็สามารถประสบความสำเร็จได้ ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของคุณ ณ ตอนนั้น
ผมกลับไปทำงานเป็นแพทย์เพราะผมคิดว่ามันสำคัญมากที่จะสอนผู้คน ผู้ที่ทุกข์ทรมานในโลกนี้ว่าพวกเขาสามารถใช้ทรัพยากร ภายในได้ดีกว่าเพื่อประสบความสำเร็จกับความพยายามของพวกเขา และบางครั้งความพยายามก็คือ การอยู่รอดจาก ความเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ หรือความเศร้าโศกหรืออะไรก็ตาม เรามีสิ่งที่อยู่ข้างในตัวเรามากมายที่เราสามารถใช้ได้
และเนื่องจากผมเป็นแพทย์ที่ดี เพราะผมได้รับการฝึกฝนด้านการสะกดจิต นักบอลลูนจึงขอให้ผมข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกกับ เขาด้วยบอลลูนลมร้อน ผมไม่ใช่นักบอลลูน แต่ผมมีเข็มทิศชีวิตเสมอที่ชี้ไปในทางที่ไม่รู้จัก ชี้ไปในทางที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ดังนั้นผมจึงตอบว่า “ตกลง ผมจะบินไปกับคุณ” ฉันฝึกมัน เราข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกจาก Bangor Maine ไปยังยุโรป และชนะการแข่งขัน มันเป็นกำลังใจที่ยอดเยี่ยม คุณลองนึกภาพการบินบอลลูนขนาดใหญ่ครั้งแรก มันคือชัยชนะ มันคือความสำเร็จ และผมก็เริ่มคิดว่าโอเคมหาสมุทรแอตแลนติกเยี่ยมโอเค 5,000 กิโลเมตรแต่ยังมีส่วนที่เหลือของโลก ที่จะต้องบินให้ถึงดังนั้นเรามาทำโครงการบินรอบโลกกัน
โครงการ Breitling Orbiter เริ่มต้นในปี 1997 และเกิดความล้มเหลวในครั้งแรก แต่มันเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องปกติมาก เมื่อคุณทำอะไรเป็นครั้งแรก คุณต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย คุณไม่มีเกณฑ์มาตรฐาน คุณไม่รู้วิธีการทำและ คุณต้องคิดค้นกลยุทธ์ที่จะทำมันขึ้นมา สิ่งนี้ทำให้การผจญภัยน่าสนใจมาก ถ้าคุณลอกสิ่งที่เคยทำมาก่อนแล้ว คุณจะไม่ได้ เรียนรู้อะไรเลย และจำสิ่งหนึ่งไว้เสมอ: สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่ใช่การล้มเหลว สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่ใช่การลอง
เราเลยลองอีกครั้ง เราลองใหม่อีกครั้ง ก็พบความล้มเหลวครั้งใหม่ แต่มันเป็นสถิติโลกยูเรเชียซึ่งเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่มาก เราเปลี่ยนเทคโนโลยีของเราอีกครั้ง และประสบความสำเร็จเมื่อคู่แข่งของเราล้มเหลวเนื่องจากพวกเขาใช้เทคโนโลยีเดิม และทำซ้ำตลอดเวลา จึงเป็นความผิดพลาดเดิม เราเรียนรู้จากความผิดพลาดและประสบความสำเร็จเสมอ และความสำเร็จ นั้นน่าสนใจจริงๆ เพราะเมื่อผมเห็นว่าโพรเพนเหลว 3.7 ตันจากจุดเริ่มต้น มีโพรเพนเหลือเพียง 40 กิโลกรัมในถังน้ำมันสุดท้าย มันทำให้ผมเข้าใจว่ามันไม่ใช่ท้องฟ้าที่มีขีดจำกัด เราได้ยินว่า "ท้องฟ้ามีขีดจำกัด" ไม่ใช่เลย ท้องฟ้าไม่ได้มีขีดจำกัด น้ำมันเชื้อเพลิงต่างหากที่มีขีดจำกัด
ผมเลยคิดว่าเอาล่ะเราจะทำสิ่งที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเราจะค้นหาวิธีการบินรอบโลกโดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงเลยโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์เท่านั้น และถ้าคุณมีแคปซูลในพิพิธภัณฑ์ร่วมกับสิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดจากโลกการบิน คุณจะเห็น ว่าคุณได้ทำสิ่งที่เหลือเชื่อที่ใช้เชื้อเพลิงไปแล้ว แต่ตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนกระบวนทัศน์แล้ว ถึงเวลาที่จะแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี สะอาดและพลังงานหมุนเวียนสามารถบรรลุสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เช่น การบินไปทั่วโลกในวิธีที่สะอาด - ไม่มีมลภาวะ ไม่มีเชื้อเพลิง ไม่มีเสียงดัง ไม่มีการปล่อยมลพิษ
อีกครั้งเราไม่มีเกณฑ์มาตรฐาน ผมจึงต้องเรียนรู้ ผมต้องเรียนรู้วิธีหาเงิน คุณรู้ไหมว่าสำหรับผมมันค่อนข้างใหม่ ผมต้องหาเงิน 170 ล้านเหรียญสหรัฐในทันที ผมคิดว่ามันเป็นเงินจำนวนมากจนกระทั่งไม่กี่ปีต่อมา ผมเห็นว่านักฟุตบอลย้ายจากค่าย บาร์เซโลนาไปปารีสต้องใช้เงิน 220 ล้านดอลลาร์ จากนั้นฉันต้องบอกว่าฉันรู้สึกเล็กมากๆ ด้วยเงิน 170 ล้านเหรียญสหรัฐ
ใช้เวลามากขึ้น แน่นอน มันต้องใช้เวลามากขึ้น มันเป็นเรื่องปกติ เพื่อให้บรรลุสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มันต้องใช้เวลามากขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำเครื่องบินที่โลกของการบินถือว่าเป็นไปไม่ได้เพราะว่ามันใหญ่เกินไป มันเบาเกินไป มันบินช้ามาก แต่มันก็บินไปโดยไม่มีเชื้อเพลิงในวิธีที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเราจึงรู้สึกเหมือนดัมโบ้ในตอนแรก ซึ่งเป็นเรื่องปกติ หากคุณต้องการประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ คุณต้องยอมรับว่าคนอื่นจะหัวเราะเยาะคุณ หากพวกเขาไม่หัวเราะเยาะคุณ มันหมายความว่าความฝันของคุณไม่ทะเยอทะยานมากพอ ดังนั้นคุณต้องอยู่ในสถานการณ์ที่คนส่วนใหญ่คิดว่าคุณบ้า ยกเว้นบางคนที่จะช่วยคุณถ้าคุณต้องการ ผู้ซึ่งจะจำว่าต้องขอบคุณปัญหาของเขา ต้องขอบคุณความฟั่นเฟือนของเขา ดัมโบ้สามารถบินได้
เขาสามารถใช้ปีกและกลายเป็นฮีโร่ของคณะละครสัตว์ ดังนั้นเราต้องทำเช่นเดิม และเราก็ทำสำเร็จ เรามีต้นแบบแรกที่สามารถ บินข้ามยุโรปไปแอฟริกา และเราพร้อมที่จะสร้างต้นแบบที่สองเพื่อบินไปทั่วโลก แต่ปีกของเครื่องต้นแบบที่สองหักระหว่าง การทดสอบ และ ณ ขณะนั้น คุณสามารถตัดสินใจได้ คุณสามารถคิดว่า เราจะสูญเสียไปหนึ่งหรือสองปีเพราะเราต้องสร้าง ปีกใหม่ หรือ เราได้รับเราชนะเรามีอีกหนึ่งปีสำหรับโครงการและเราสามารถทำสิ่งที่เราไม่ได้วางแผนไว้
นี่คือปรัชญาที่น่าสนใจมากในอุดมคติของจีน คำว่า "วิกฤติ" มีสองส่วนคือ ส่วนที่หมายถึงความเสี่ยงหรืออันตราย และอีกส่วน หนึ่งที่หมายถึงโอกาส โอกาสที่จะได้รับ หากคุณรับความเสี่ยง ความอันตราย คุณจะร้องไห้ หากคุณรับโอกาส คุณจะรักมัน นั่นคือสิ่งที่เราทำ เมื่อวิศวกรของเรากำลังสร้างปีกขึ้นใหม่ เรานำต้นแบบแรกของเราไปอเมริกาและทำการข้ามสหรัฐอเมริกา ครั้งแรกด้วยเครื่องบินพลังงานแสงอาทิตย์ และไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่สำคัญในด้านการสื่อสารและพลังงานหมุนเวียน แต่ยังเป็นวิธีการฝึกอบรมทีมเพื่อให้พร้อมสำหรับการบินรอบโลก เราคงไม่มีวันพร้อมสำหรับทั่วโลกในแง่ของการทำงาน เป็นทีมโลจิสติก ถ้าเราไม่ได้มีโอกาสในชีวิจในการข้ามประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วเราก็อยู่ที่นั่น
นี่เป็นฉากหนึ่งใน Abu Dhabi เมื่อต้นเดือนนี้ [ภาพ] เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม เราออกเดินทางและข้ามประเทศอาหรับ ทะเลอาหรับ เอเชียแปซิฟิก ลงจอดที่ Hawaii ใน Hawaii เราต้องหยุดเป็นเวลาเก้าเดือนเพราะทีมทำผิดพลาดในการดำเนินงาน แบตเตอรี่ร้อนเกินไปและด้วยการต้องรอใน Hawaii เป็นเวลาเก้าเดือนเพื่อแบตเตอรี่ใหม่ เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ ในเวลานี้ เรามีความตกลงปารีส - ความเป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีสะอาด อีกมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ เราสามารถทำได้เพื่อช่วยโลก
และเนื่องจากเราติดอยู่ที่ Hawaii ผู้คนเริ่มเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ มันไม่ใช่แค่การผจญภัย แต่เป็นการส่งข้อความเกี่ยวกับ วิธีการปกป้องสิ่งแวดล้อมด้วยพลังงานทดแทน จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ได้รับอีกครั้ง ขอบคุณปัญหา – วิกฤตที่กลายเป็นโอกาส ที่ยอดเยี่ยม
หนึ่งปีต่อมา เรายังคงบินข้ามส่วนที่สองของมหาสมุทรแปซิฟิก ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก บินข้ามทะเลทรายอียิปต์ไปยังปิรามิด – ความขัดแย้งอันน่าอัศจรรย์นี้ระหว่างคาร์บอนไฟเบอร์ของเครื่องบินกับแผง โซลาร์เซลล์และหินของปิรามิดอายุ 5,000 ปีและการลงจอดที่ Abu Dhabi เราประสบความสำเร็จ เราทำการบินเสร็จสิ้น
แต่จำไว้สิ่งหนึ่งเสมอ: ความสำเร็จไม่ได้เกี่ยวกับอดีต ความสำเร็จเป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคต ความสำเร็จคือ วิธีการได้รับ ความน่าเชื่อถือมากขึ้น ความสนใจมากขึ้น พลังมากขึ้น ความเชื่อมั่นมากขึ้น และแรงบันดาลใจมากขึ้นที่จะทำสิ่งที่ดี มากกว่าเพียงแค่ภาพฉลอง เราวางแผนที่จะทำการต่อไป - ดำเนินการต่อ ไม่หยุดและมองย้อนกลับไป แต่ไม่ตัดสินและ ก้าวไปข้างหน้า และตอนนี้เราได้เปิดตัวด้วยมูลนิธิ Solar Impulse ขอบคุณความสำเร็จทั้งหมด สิ่งที่เราไม่เคยคิดที่จะทำมาก่อน เรากำลังเลือก 1,000 ทางแก้ปัญหาที่สามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมด้วยวิธีการสร้างผลกำไรทางการเงินเพื่อแสดงให้เห็นว่า การปกป้องสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ภาระ มันไม่ใช่ภาระ มันไม่ได้ใช้เงินเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีจำนวนมากที่สามารถสร้างการเติบโตเชิงคุณภาพแทนที่ระบบมลพิษทั้งหมดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และสะอาด นี่คือสิ่งที่เรากำลังทำ และต้องขอบคุณความสำเร็จของเรา ผู้คนกำลังฟังเรา ดังนั้นคุณจะเห็นว่าเส้นแบ่งระหว่าง ความล้มเหลวและความสำเร็จนั้นแคบมาก มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราต้องเผชิญ มันขึ้นอยู่กับ สภาพจิตใจของเรา ถ้าเรามองโลกเป็นเส้นตรง ถ้าเรากลัวสิ่งที่เราไม่รู้ ถ้าเราไม่ต้องการมองซ้ายหรือขวาเพราะมีเครื่องหมาย คำถามหรือข้อสงสัย เราจะไปทางตรงและเราจะชนเข้ากับอุปสรรคแรก เราจะชนและเราจะพูดว่า "ทำไมชีวิตจึงแย่สำหรับฉัน" แทนที่จะถามว่า "ทำไมฉันถึงไม่พร้อมสำหรับชีวิต"
สิ่งที่เราต้องเข้าใจคือ ชีวิตเราไม่ได้มีแค่เส้นตรง ไม่ได้มีแค่ทางเดียวที่จะมองโลก มีหลายวิธีในการมองโลก หลายพันสถานะ ของจิตใจที่แตกต่างกัน หลายพันวิธีคิดและจัดการกับตัวเราและผู้อื่น และเราต้องลองให้หมดเพื่อที่จะได้รู้ว่าจะไปทางไหนดี บางครั้งเราจะล้มเหลวเพราะเราเป็นนักสำรวจ เราลอง แล้วมันไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง เราจึงลองอีกทาง แต่เมื่อเรามองย้อนกลับ ไปในชีวิตในตอนท้ายของชีวิต เราจะสามารถพูดได้ว่า “ฉันล้มเหลวเล็กน้อย แต่ฉันได้ใช้โอกาสทั้งหมดที่ได้รับ”
มันเหมือนกับบอลลูน กับบอลลูน หากคุณต้องการเปลี่ยนเส้นทาง คุณต้องเปลี่ยนระดับความสูงของคุณ คุณต้องหาลมที่มี ทิศทางอื่น และสำหรับสิ่งนี้คุณต้องปล่อยบัลลาสต์ คุณต้องปล่อยน้ำหนัก ในชีวิต เหมือนกันทุกประการ เรามีบัลลาสต์ เรามีความมั่นใจ เรามีความเชื่อ เรามีเครื่องหมายอัศเจรีย์ เรามีกระบวนทัศน์ เรามีกฎเกณฑ์และเรามีความเชื่อมั่น มันเป็นเพียง การโยนส่วนหนึ่งทิ้งไปเพื่อที่เราจะจัดการฃเปลี่ยนระดับความสูงในสายลมแห่งชีวิต ในทุกสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ในชีวิต เพื่อที่จะสามารถสัมผัสกับอิทธิพลหรือวิสัยทัศน์อื่นๆ ของโลก และทิศทางอื่นๆ ที่จะนำเราไปในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นเดียว กับดอกไม้ไฟ ในดอกไม้ไฟ แต่ละประกายมีทิศทางมากมายและงานของเราในฐานะมนุษย์คือ การสำรวจแกนตั้ง ระดับความสูง ทุกระดับ ทุกวิธีที่จะคิด ทุกวิธีที่จะปฏิบัติเพื่อค้นหาสิ่งที่นำเราไปในทิศทางที่ดีที่สุด และผมอยากจะทิ้งคุณไว้กับภาพสุดท้ายนี้ [ภาพ]
นั่นคือ หน้าต่าง ช่องหน้าต่างของแคปซูล Breitling Orbiter 3 ผมถ่ายรูปก่อนลงจอดหลังจากผ่านไป 20 วัน มันแข็งเพราะ ความชื้นของกลางคืน และอีกด้านหนึ่ง มีพระอาทิตย์ขึ้น แต่คุณจะไม่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นถ้าคุณไม่ผ่านน้ำแข็งก่อน แต่ผู้คน มากมายกลัวน้ำแข็ง พวกเขาจึงชอบที่จะทรมานตัวเองปัญหาในชีวิตแทนที่จะเสี่ยงต่อเผชิญกับปัญหา เผชิญวิกฤตเพื่อ ที่จะได้ผจญภัย
ปัญหาที่เราไม่ยอมรับจะยังคงอยู่ในภาวะวิกฤติ ปัญหาที่เราอ้าแข้นและยอมรับจะกลายเป็นการผจญภัย ดังนั้นทุกครั้งใน ชีวิตเมื่อคุณมีน้ำแข็ง คุณมีวิกฤต คุณมีปัญหา คุณมีความยากลำบาก จำไว้ว่าเรามีทรัพยากร เรามีพลัง เรามีมันอยู่ภายในตัว เรามีจิตวิญญาณผู้บุกเบิกที่ยอดเยี่ยม จิตวิญญาณการสำรวจที่ให้ความมั่นใจกับเราในการผ่านอุปสรรคต่างๆ
ความกล้าหาญอย่างเดียวไม่เพียงพอ ด้วยความกล้าหาญ คุณต่อสู้กับความกลัว แต่ในโลกแห่งการสำรวจ คุณสามารถค้นพบ ความมั่นใจที่ที่ทรัพยากรภายในของมนุษย์เพียงพอที่จะเปลี่ยนความล้มเหลวให้กลายเป็นความสำเร็จ และเปลี่ยนชีวิตให้เป็น ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม นี่คือสิ่งที่ผมต้องการให้คุณ: ขอให้โชคดี ขอให้พบกับความสำเร็จมากมาย ขอให้พบกับการผจญภัย มากมาย

Bertrand Piccard. ด้วยบุคลิกทั้งสองในฐานะแพทย์และนักสำรวจที่ทุ่มเท Bertrand Piccard ได้กลายเป็นเสียงที่มีอิทธิพลในฐานะผู้นำที่มีความคิดก้าวไปข้างหน้า บรรลุสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อยู่ในสายเลือดเขา ในฐานะส่วนหนึ่งของราชวงศ์ในตำนานของนักสำรวจและนักวิทยาศาสตร์ผู้พิชิตความสูงและความลึกของโลก Bertrand สร้างประวัติศาสตร์ด้วยบอลลูนที่ท่องไปรอบโลกโดยไม่จอดครั้งแรกกับ Breitling Orbiter 3 ด้วยวิสัยทัศน์ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลของพลังงานทดแทน เขาเริ่มการผจญภัยไปกับ Solar Impulse และเดินทางไปทั่วโลกในเครื่องบินที่ขับเคลื่อนโดยดวงอาทิตย์เท่านั้น ในฐานะทูตสันถวไมตรีแห่งสหประชาชาติและผู้บุกเบิกเทคโนโลยีสะอาด เป้าหมายใหม่ของเขาคือการเลือกโซลูชั่น 1,000 รายการเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมด้วยวิธีที่ให้ผลกำไร