สองสิ่งที่ผมเรียนรู้ในอาชีพนี้คือ ความยืดหยุ่นและความสมดุล เรามักจะหมกมุ่นกับการทำงานในทุกวัน เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าทุกราย และไม่เคยอยู่บ้านเพื่อครอบครัวของเรา การตัดสินใจอย่างหนึ่ง ของผมเมื่อเริ่มมีครอบครัวคือ การสร้างขอบเขตให้ตัวเอง วิธีเดียวที่ผมจะสร้างขอบเขตคือ จัดปฏิทินเอาไว้ ล่วงหน้านานๆ และเมื่อผมพูดว่า ล่วงหน้านานๆ ผมหมายถึง ล่วงหน้าหนึ่งปีเต็มหรือปีครึ่ง และผมทำโดย เริ่มสร้างสิ่งที่เรียกว่า "สัปดาห์ในอุดมคติ"
สัปดาห์ในอุดมคติของผมมีดังนี้ ผมพบลูกค้าในวันอังคาร วันพุธ และวันพฤหัสบดี วันจันทร์เป็นวันเตรียมการ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสัปดาห์และดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ผมจะทำตอนเย็นวันอาทิตย์นั้นเพื่อที่ผมจะได้ เตรียมพร้อมสำหรับทีมเพราะเราจะพบกันในวันจันทร์ เราจะพบกันตอนบ่ายเพราะผมจะพาลูกสาวไปโรงเรียน ตอนเช้า
จากนั้นผมก็พบกับพนักงาน และมีการประชุมในช่วงบ่ายโดยปกติกับพันธมิตรหรือที่ปรึกษาอื่นๆ เรายังพบกับ ที่ปรึกษาทางการเงินอื่นๆ หากจำเป็น ถ้าผมต้องการนัดประชุมลูกค้าในวันจันทร์จริงๆ ผมจพบลูกค้าทั้งวัน แล้ววันอังคาร วันพุธ และวันพฤหัสบดี จะเป็นการประชุมกับลูกค้าทั้งวันด้วย ผมกันวันเอาไว้สำหรับใครก็ตาม ที่จำเป็นต้องมาพบ และวันศุกร์เป็นวันที่ติดต่อกับทีมของผมในการวางแผนที่ต้องทำในสัปดาห์ถัดไป ผมไม่ทำงานวันเสาร์และอาทิตย์อีกต่อไป
ผมจัดตารางแบบนี้ได้อย่างไร
สิ่งแรกที่ผมเริ่มทำคือ ผมหยุดการนัดพบตามบ้าน มันยากจริงๆ ใช่ไหม เพราะถ้าคุณออกไปพบลูกค้า เป็นประจำ พวกเขาจะชินกับการที่คุณไปหาพวกเขา คุณต้องการกำหนดขั้นตอนที่จะทำให้คุณไม่ต้องไป พบลูกค้าตามบ้านซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ง่าย มันไม่ใช่แค่การหยุดและไม่ทำอะไรเลยต่อจากนั้น มันจะต้องเป็น สิ่งที่ทำไปเรื่อยๆ เพื่อให้สามารถหยุดไปพบลูกค้าได้เมื่อเวลาผ่านไป
อย่างแรกเลยคือ ผมหยุดพบลูกค้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ แล้วผมก็เลิกไปตามบ้านลูกค้าตอนกลางคืน จากนั้น ผมจะไปพบแค่ตอนเช้าในช่วงวันธรรมดาเท่านั้น และคุณก็จะค่อยๆ เริ่มโอนเอนไปในทางที่คุณ จะไม่ไปพบ ลูกค้าอีกเลย การหยุดทำสิ่งนั้นไปเลยจะเป็นเรื่องยากเล็กน้อยถ้าคุณคุ้นเคยกับการไป พบลูกค้าตามบ้าน เริ่มด้วยการสร้างขอบเขต แล้วค่อยๆ ย่อให้มันเล็กลงเมื่อเวลาผ่านไป
เมื่อผมหยุดไปบ้านพวกเขา ผมยังคงพบผู้คนในวันอาทิตย์เพราะพวกเขาจะมาหาผมที่สำนักงาน นั่นหมายความว่า ผมเริ่มฝึกให้ทุกคนมาที่สำนักงาน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ตาม แล้วในที่สุด เราก็หยุดทำงานวันอาทิตย์ จากนั้นผมก็เริ่มหยุดวันเสาร์ นี่คือ วิธีที่ผมสามารถโยกย้ายตารางเวลาไป เป็นวันจันทร์ถึงวันศุกร์เท่านั้น แล้วผมก็หยุดวันศุกร์
วันศุกร์จะหยุดยากเล็กน้อย ผมเคยคิดว่าจักรวาลแกล้งผม เพราะทุกครั้งจะมีโอกาสดีๆ เกิดขึ้น และโอกาส นั้นจะเป็นการขายประกันชีวิตเคสใหญ่ๆ หรืออะไรทำนองนั้น ผมมักจะยอมและประชุมกับลูกค้าเสมอ ซึ่งมักจะเป็นมีเหตุเสมอ หรือลูกค้าจะยกเลิกนาทีสุดท้าย หรือขอกำหนดเวลาใหม่ ผมจะแต่งตัวเต็มยศ รอพวกเขาอยู่ที่สำนักงาน ผมเลยตัดสินใจว่า รู้อะไรไหม ผมจะปฏิเสธไม่ว่าเคสจะใหญ่แค่ไหนก็ตาม
ผมจึงตั้งกฎว่า ถ้าลูกค้าจ่ายเงินให้เราในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือด้วยรูปแบบใดๆ ผมถึงจะพบพวกเขา วันศุกร์ ซึ่งทำให้ผมสงบสุขขึ้นมาก ในที่สุด ผมก็หยุดทำงานทุกสุดสัปดาห์ เหตุผลที่ผมบอกว่าผมหยุด ทำงานทุกวันหยุดสุดสัปดาห์คือ แม้ว่าผมจะไม่ได้ทำงานวันเสาร์และอาทิตย์ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง สิ่งที่ผมทำ — ซึ่งมันเจ๋งและผู้คนก็คุ้นเคยกับมัน — คือ ผมจะทำงานวันหยุดสุดสัปดาห์เพียงหนึ่งสัปดาห์ในหนึ่งเดือน ในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ร่วง
ไม่มีใครอยากมาพบผมวันอาทิตย์หรอก ในฤดูร้อน ในวันอาทิตย์หรือวันเสาร์ พวกเขาอยากไปชายหาดกัน และในฤดูใบไม้ผลิ อากาศก็เริ่มดี พวกเขาจะโทรมายกเลิกหรือเปลี่ยนเวลากับผม ผมจึงเริ่มทำงานในช่วง เดือนที่สำคัญอย่างฤดูหนาวและฤดูใบไม้ร่วง ในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ร่วง โดยทั่วไปผมทำทุกอย่างในเช้า วันเสาร์ตั้งแต่ 10.00 น. ถึงประมาณ 17.00 น. และทำเหมือนกันในวันอาทิตย์
ในที่สุด ผมก็หยุดทำอย่างนั้น เมื่อผมเริ่มทำงานสุดสัปดาห์เดือนละครั้ง ถ้าลูกค้าต้องยกเลิกหรือขอกำหนด เวลาใหม่ ผมจะไม่ว่างจนกว่าจะถึงเดือนถัดไป นั่นหมายความว่า พวกเขาจะต้องรออีกสามถึงสี่สัปดาห์เพื่อ พบผม ผมจะวางแผนปฏิทินนี้ล่วงหน้า และส่งให้ลูกค้าล่วงหน้า “อ้อ แล้วก็จะมีวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ ผมทำงานด้วยนะ ถ้าคุณอยากเจอ” หากพวกเขาต้องยกเลิกและพูดว่า "โอ้ ฉันขอพบคุณสุดสัปดาห์หน้า ได้ไหม" คำตอบคือ ไม่ เพราะมันไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผมทำงาน ในที่สุด ผมก็หยุดทำทั้งหมดนั้น
ต่อไป ผมหยุดทำงานวันจันทร์ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ยากเช่นกัน เพราะผมเริ่มจากการต้องไปพบลูกค้าเจ็ดวัน ต่อสัปดาห์ หกวันต่อสัปดาห์ ห้าวันต่อสัปดาห์ สี่วันต่อสัปดาห์ เป็นสามวันต่อสัปดาห์
เป้าหมายและวิสัยทัศน์สูงสุดของผมคือ การได้พบลูกค้าจริงๆ สัปดาห์ละ 2 วันเท่านั้น ตอนนี้บางสัปดาห์ ผมพบลูกค้าเพียงสองวันเพราะมีเรื่องอื่นให้ต้องทำ และผมจัดตารางเวลาเหล่านั้นลงในปฏิทินของผม ผมไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น แต่ในที่สุด ผมอยากให้มันเป็นความตั้งใจและมันจะเป็นอีกความท้าทายที่ผม จะต้องไปให้ถึง เมื่อผมกลับมาในหนึ่งปีหรือสองปีและได้สนทนากับคุณ ผมจะบอกคุณว่าผมไปถึงไหนแล้ว แต่ผมหยุดทำงานวันจันทร์ และมันทำให้ผมต้องทำให้แน่ใจว่า ผมพร้อมสำหรับสัปดาห์ต่อไป
แน่นอนว่า ผมมีข้อยกเว้นสำหรับตารางเวลา เพราะอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ลูกค้าป่วย ลูกค้าบางคนมีลูกแล้ว และไม่อยากเดินทางหรือออกไปข้างนอก หรือคู่สมรสอยู่บ้าน ผมก็จะไปหาพวกเขาเพื่ออำนวยความสะดวก บางครั้งผมไปหาพวกเขาพร้อมทั้งครอบครัวของผมในช่วงหยุดสุดสัปดาห์ เราจะทำให้มันเป็นวันหยุด สุดสัปดาห์ และได้พบลูกคนใหม่ของลูกค้า และพวกเขาก็จะได้เจอกับลูกๆ ของเราและอะไรทำนองนั้น ผมพยายามทำให้มันดีที่สุด
จำไว้ว่า มันมีข้อยกเว้นได้เสมอ มันไม่ใช่กฎตายตัวว่าจะต้องเป็นแบบนี้แบบนั้นเสมอ แต่เมื่อคุณพยายาม ตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีจัดการปฏิทิน การมีตัวกำหนดเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เราส่งปฏิทินให้ลูกค้าล่วงหน้า 12 สัปดาห์ วิธีนี้ช่วยให้เราสามารถบล็อกวันและสัปดาห์ที่เราจะไม่ทำงาน ดังนั้นเมื่อพวกเขาเข้ามาพบเรา พวกเขาจะได้รับรู้ทุกสิ่งที่เรามีให้บริการและได้เลือกในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ พวกเขา และการสามารถบล็อกวันเหล่านี้เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเพราะเราสามารถกันวันหยุดพักผ่อน วันพิเศษ วันเกิดของผม วันเกิดภรรยาของผม วันครบรอบ และอะไรทำนองนั้นได้

Barjes Angulo, LUTCF, RICP ช่วยให้ลูกค้าบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเงินมากว่า 20 ปี ในฐานะผู้ก่อตั้ง Angulo Strategies LLC ในนิวยอร์ก Angulo สนับสนุนลูกค้าทั่วประเทศในการเติบโต การจัดการ และการปกป้องความมั่งคั่งของพวกเขา ในฐานะที่เป็นมืออาชีพที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงในสาขาของเขา Angulo มักพูดในงานสำคัญๆ ในอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ และยังชอบนำเสนองาน และการประชุมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อทางการเงินต่างๆ