
ไม่ว่าคุณจะทำงานบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทบริหารหลักทรัพย์ บริษัทประกัน หรือ อื่น ๆ การตลาดที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเพิ่มผลกำไรของคุณ เพิ่มมูลค่า รวมถึงความน่าเชื่อถือของคุณในฐานะที่ปรึกษาได้อีกด้วย ไม่สำคัญว่าคุณจะมีประสบกรณ์มากน้อยเพียงใด เพราะถึงคุณจะเป็นเด็กจบใหม่ที่กำลังจะเริ่มเส้นทางอาชีพของคุณ หรือคุณจะเป็นที่ปรึกษามากประสบการณ์ในอุตสาหกรรมของคุณ คุณค่าของการตลาดที่มีประสิทธิภาพนั้นก็ยังคงความสำคัญเหมือนเดิม
อุตสาหกรรมการวางแผนทางการเงินมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา รวมถึงเทรนด์ใหม่ ๆ ดังนั้นหากคุณหวังที่จะอยู่รอดและเติบโตในตลาดที่มากับการแข่งขันเช่นนี้ คุณจำเป็นต้องมีเครื่องมือทางการตลาดที่เหมาะสมอยู่ในมือ เรียนรู้วิธีการเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกลุ่มลูกค้าของคุณ ด้วยเคล็ดลับดังต่อไปนี้
- 1. ทำความรู้จักกับกลุ่มลูกค้าของคุณ
ลูกค้าต่างยุคสมัย มักโตมากับวัฒนธรรมและรสนิยมความชอบที่ต่างกัน ซึ่งทำให้ช่องทางการสื่อสารทางการตลาดที่พวกเขาเลือกรวมถึงพฤติกรรมการตัดสินในของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ย่อมมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการเลือกเครื่องมือการตลาดที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละยุคสมัย นับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเข้าถึงลูกค้า โดยข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) Electronic Transactions Development Agency หรือ ETDA ซึ่งเป็นองค์กรที่ออกแบบมาให้ส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยไปสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิตอล ได้รวบรวมและแบ่งสถิติของลูกค้าแต่ละรุ่นไว้ดังนี้
กลุ่มที่ 1 Gen Y อายุ 20-39 ปี ซึ่งเกิดมาในยุคที่คอมพิวเตอร์กำลังเข้ามามีบทบาทในโลกประจำวัน โดยคนกลุ่มนี้โตมากับการปรับใช้เทคโนโลยีที่หลากหลายรวมถึงช่องทางโซเชียลมีเดียที่หลากหลายเช่นกัน คนกลุ่มนี้มักชอบการสื่อสารที่รวดเร็ว เข้าถึงง่ายและสามารถนำมาแชร์ต่อกันได้ พร้อมทั้งเป็นกลุ่มที่ชินต่อการสื่อสารแบบทางการหรือเรื่องงานผ่านช่องทางอีเมล ทั้งนี้ช่องทางที่คนกลุ่มนี้นิยมมากที่สุดได้แก่ YouTube 99.6% , Line 99.4% , Facebook 98.5% ตัดสินใจซื้อจากสื่อออนไลน์เป็นส่วนมาก และชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์เกือบทั้งหมด ดังนั้นการเข้าถึงลูกค้าส่วนนี้ควรจะต้องใช้ผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เน้นการส่งข้อความแทนการโทร และใช้ข้อมูลที่กระชับและเข้าใจง่าย
กลุ่มที่ 2 Gen X อายุ 40-59 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มวัยกลางคนที่ได้เริ่มใช้คอมพิวเตอร์ในวัยทำงาน โดยคนกลุ่มนี้เปิดใจให้กับสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยช่องทางออนไลน์ที่พวกเขาเลือกใช้คือ Line 99.5%, YouTube 97.5% , Facebook 96.8% ลูกค้ากลุ่มนี้มักสื่อสารและรับข่าวสารผ่าน โปรแกรมในการแชทหรือพูดคุยผ่านสื่อ ซึ่งมักเกิดขึ้นผ่านแอปพลิเคชัน LINE เพราะพวกเขามีความคุ้นชินกับโซเชียลมีเดียน้อยกว่ากลุ่มแรก และอาจต้องการข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้น พร้อมมีความต้องการที่จะสื่อสารโดยตรงกับมนุษย์มากกว่า chatbot เพื่อสร้างปติสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง
กลุ่มที่ 3 Baby boomer อายุ 60-79 ปี จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ค่อยคุ้นชินกับเทคโนโลยี และเป็นกลุ่มที่มักต้องการรับข้อมูลและข่าวสารผ่านโทรศัพท์หรือจดหมาย คนกลุ่มนี้จะไม่ค่อยมีการเข้าถึงข้อมูลที่ยุ่งยาก ยังยึดติดกับการใช้สื่อแบบเดิม ๆ อยู่ โดยช่องทางที่พวกเขาเลือกได้แก่ Line 97.3% , YouTube 94.2% , Facebook 92.2%
- 2. สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
เมื่อคุณสามารถเข้าถึงลูกค้าของคุณได้แล้ว คุณจะทำอย่างไรเพื่อเชื่อมต่อคุณกับลูกค้ากลุ่มนั้นเพื่อให้ไม่เกิดรอยต่อในความสัมพันธ์ของคุณ โดยเฉพาะในยุคโควิดที่เข้ามาสร้างอุปสรรคในการพบปะกับลูกค้า การเลือกเครื่องมือการตลาดที่สามารถช่วยสานสัมพันธ์และเสริมสร้างความไว้วางใจนั้นอาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหาอยู่ โดยข้อมูลจาก Hootsuite เผยว่าช่องทางการสื่อสารที่นิยมที่สุดในประเทศไทยได้แก่ YouTube (94.2%) Facebook (93.3%) และ LINE (86.2%) ถึงคุณอาจจะใช้ YouTube เป็นเครื่องมือการตลาดไม่ได้โดยตรงในฐานะผู้ปรึกษาทางการเงิน แต่สถิตินี้ก็แสดงให้เห็นว่า คนไทยนิยมเสพสื่อวิดีโอที่มีทั้งภาพและเสียง ดังนั้นการประชุมจากระยะทางไกลกับลูกค้าผ่านช่องทางเช่น Zoom, Microsoft Teams, Google Meets หรืออื่น ๆ อีกมากมายโดยเฉพาะในช่วงโควิด ย่อมมีผลที่ดีต่อการกระชับสัมพันธ์ของคุณกับลูกค้า ต่อด้วยการอัพเดทข้อมูล แชร์ข่าวสาร หรือสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่าน Facebook หรือโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพื่อสร้างความสนิทสนมเป็นกันเอง จบด้วยการสื่อสารประจำวันผ่าน Official LINE account เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วทันใจ โดยเก็บออีเมลไว้ใช้สำหรับข้อความที่เป็นทางการและไม่เร่งด่วน
- 3. เชื่อมต่อเครื่องมือสื่อสารทุกช่องทาง
ทุกวันนี้มีเครื่องมือสื่อสารทางการตลาด ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอยู่ทุกวัน สืบเนื่องมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ โดยแต่ละเครื่องมือมักมีจุดเด่นและด้อยที่ต่างกัน จึงอาจทำให้ที่ปรึกษาทางการเงินหรือประกันอย่างคุณต้องใช้เครื่องมือการตลาดที่หลากหลาย ดังนั้นการบริหารแต่ละเครื่องมือการตลาดให้สอดคล้องและส่งเสริมซึ่งกันและกัน แลดูเป็นสิ่งที่ยากและเปลืองเวลาเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้มีเครื่องมืออย่าง Hootsuite หรือ ContentStudio ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจัดการโซเชียลมีเดีย โดยอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของระบบอยู่ในรูปแบบของแดชบอร์ด และสนับสนุนการประสานงานระหว่างเครือข่ายโซเชียลสำหรับ Twitter, Facebook, Instagram, LinkedIn, YouTube และอื่น ๆ อีกมากมายจากศูนย์กลางเดียว
- 4. เพิ่มคุณค่าให้กับบริการของคุณ
การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ไม่ได้จบแค่การให้คำแนะนำกับลูกค้าเท่านั้น ดังนั้นคุณควรสร้างประโยชน์เพิ่มเติมให้กับการบริการของคุณเพื่อที่คุณจะได้เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งจะนำพาไปสู่ความจงรักภักดีและการบอกต่อ เริ่มต้นง่าย ๆ จากการเป็นแหล่งข้อมูลให้กับลูกค้าของคุณ อัพเดทข้อมูลและเทรนด์ใหม่ ๆ ในวงการการเงินเพื่อที่คุณจะได้เพิ่มความรู้ส่วนตัวที่สามารถนำมาแบ่งปันกับลูกค้าได้ เครื่องมือการตลาดเช่น Google Alerts สามารถช่วยคุณอัพเดทข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว โดยฟังก์ชั่นต่าง ๆ เช่นการแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับการอัพเดตข่าวสารสำหรับบทความในหนังสือพิมพ์หน้าเว็บ บล็อก หรือการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สำหรับ keyword ที่ผู้ใช้เลือก นอกจากนี้ยังมีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ เช่น สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) Electronic Transactions Development Agency หรือ ETDA ซึ่งนำเสนอข้อมูลและสถิติที่มีความจำเพาะเจาะจงต่อตลาดไทยตลาดไทย หรือแม้กระทั่ง Resource Zone ของ MDRT เองที่สามารถช่วยเพิ่มความรู้ให้คุณนำไปบอกต่อกับลูกค้าได้ในอนาคต
Contact: MDRTeditorial@teamlewis.com