การสร้างแบรนด์คืออะไร 

เชื่อว่าหนึ่งในปัญหาหลักของคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจหรือต้องการสร้างธุรกิจของตนให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน คือ การสร้างแบรนด์ที่สะท้อนแก่นของธุรกิจ หรือความเป็นตัวตนที่ต้องการให้ทุกคนรับรู้อย่างตรงจุด เพื่อดึงดูดให้ผู้คนเกิดความสนใจและเข้าหาแบรนด์ของเราในที่สุด เช่นเดียวกับตัวแทนประกันชีวิตประเทศไทย ที่ปัจจุบันได้ปรับตัวเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ให้บริการในการวางแผนการเงิน วางแผนภาษี วางแผนการลงทุน และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อรองรับและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ที่ปรึกษาทางการเงินเกิดความแตกต่าง คือ คำแนะนำที่เฉพาะแต่ละบุคคล ที่จะช่วยให้เข้าใจ และรู้วิธีการเข้าถึงลูกค้าในแบบที่โดดเด่นและไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ ดังนั้นการสร้างแบรนด์จึงมีส่วนช่วยให้เป็นที่จดจำแก่ลูกค้า และทำให้ที่ปรึกษาทางการเงินประสบความสำเร็จ 

สมาชิก MDRT คุณธนบูลย์ วนาทรัพย์ดำรง ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเริ่มต้นการสร้างแบรนด์ให้กับตนเองอย่างง่าย ๆ แต่มีประสิทธิภาพ ซึ่งก็คือการค้นหาความเป็นตนเองให้เจอ ดึงความน่าสนใจของตัวเองออกมา และตั้งคำถามแทนใจของลูกค้า 

“ก่อนอื่นเราสร้างจุดเด่นของตัวเอง ให้ลองถามคนที่สนิทใกล้ชิดกับคุณว่า หากคิดถึงคุณ พวกเขาเหล่านั้นคิดถึงอะไร สำหรับผมเมื่อสอบถามไปจากทั้งลูกค้าและเพื่อนสนิทได้คำตอบคล้ายกันว่า เป็นคนที่มีข้อมูลในหลายด้านและสอบถามได้ทุกเรื่อง ผมจึงนำเอาเรื่องนี้มาสร้างจุดเด่นเพื่อสร้างแบรนด์ของตนเอง และสำคัญมากคือการ เริ่มที่ทำไม ไม่ใช่อย่างไร เราจึงควรถามตัวเองว่าทำไมลูกค้าจึงจำเป็นต้องวางแผนการเงินกับเรา เรามีดีอย่างไร ทำไมคำแนะนำของเราถึงมีประโยชน์กับเขา เพื่อให้เราเริ่มตั้งต้นให้ถูกจุด และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าต่อตนเองและลูกค้าว่าจะได้รับการบริการและมีการวางแผนการเงินที่เหมาะสมอย่างแน่นอน” คุณธนบูลย์ กล่าว 

พลังของการบอกต่อ 

เมื่อเราค้นหาความเป็นตนเองและตั้งต้นการสร้างแบรนด์ของตัวเองอย่างแน่วแน่แล้ว ขั้นต่อไปคือการลงมือทำ ซึ่งในส่วนนี้ เราควรมองหาจุดแข็งของตัวเองเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือ โดยอาจใช้ Key Message ให้แบรนด์มีตัวตนมีเอกลักษณ์ และจับต้องได้  

ข้อมูลจากเว็บไซต์ที่รวบรวมการทำสถิติเกี่ยวกับการตลาดและการสร้างแบรนด์อย่าง Profitfromtech รายงานผลสำรวจว่ากว่า 86% ของกลุ่มคนในประเภทสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย มอบความเชื่อถือให้แก่แบรนด์ที่เป็นตัวจริง (Authenticity) ซึ่งก็คือ มีการสื่อสารตัวตนออกมาให้ผู้บริโภคเห็นอย่างความจริงใจต่อผู้บริโภค นอกจากนี้นักการตลาดกว่า 64% ยังชี้แจงว่าการบอกต่อ คือ วิธีทำการตลาดที่ดีที่สุด และ Nielsen หนึ่งในบริษัทวิจัยการตลาดที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก ยังเปิดเผยว่า 75% ของลูกค้าไม่เชื่อโฆษณา แต่ 92% เชื่อคำแนะนำ รีวิวของเพื่อนหรือของคนรู้จัก อีกด้วย  

สมาชิก MDRT คุณธนบูลย์  กล่าวว่าเขาสามารถสร้างแบรนด์ของเขาให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยใช้ความรู้และความโดดเด่นของตน รวมถึงใช้พลังของการบอกต่อที่ช่วยให้แบรนด์ของเขาสามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน 

“การสร้างแบรนด์ของผมเริ่มต้นจากการที่สังเกตคนรอบข้างมักสอบถามเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ผมจึงเขียนบทความและอัพเดทข่าวสารผ่านทาง Facebook ได้ผลตอบรับที่ดีมาก ก่อให้เกิดกิจกรรมพูดคุยกับลูกค้าและได้ความไว้ใจ ในช่วง 5 ปีแรกผมใช้เรื่องเทคโนโลยีในการพูดคุยกับลูกค้าและขยายตลาด ทำให้มีลูกค้าใหม่ปีละมากกว่า 30 ราย ภายหลังผมเพิ่มเรื่องที่สนใจเข้าไป เช่น การสะสมนาฬิกา ทำให้เพื่อนใน Facebook ที่แม้ไม่เป็นลูกค้าก็บอกต่อให้เพื่อนของเขาเข้ามาปรึกษา มีอยู่ครั้งหนึ่งคนที่เพื่อนแนะนำให้มาปรึกษา ชอบวิธีคิดในการเลือกสะสมนาฬิกาของผมทีได้จากการพูดคุยกัน จนถามถึงการวางแผนการเงินของผมว่าทำอย่างไร ผมก็ให้วิธีคิดของผมไปซึ่งตรงกับจริตของลูกค้า ลูกค้าก็วางใจให้ผมดูแลในการวางแผนการเงิน ทำให้ติด MDRT ทันทีจากลูกค้ารายเดียว” 

ไม่ต้องเก่งที่สุดแต่ขอให้ไม่เหมือนใคร 

ที่ปรึกษาทางการเงินส่วนใหญ่มีการทำงานคล้ายกัน แต่ในความเป็นจริงเราสามารถเป็นเราในแบบของเราที่ดีได้และพัฒนาขึ้นได้ ผ่านการเข้าใจตัวเองและการค้นพบกลุ่มลูกค้าที่ใช่ เพื่อให้เราสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด และให้คำแนะนำ รวมถึงวางแผนการเงินได้อย่างตรงเป้าหมายมากขึ้น 

สมาชิก MDRT คุณธนบูลย์ ได้เล่าประสบการณ์ในส่วนนี้ว่า “ผมเองในช่วงปีแรกของการทำงานถูกสอนให้บริการ เน้นไปมาหาสู่ลูกค้า และขายแบบประกันในแบบที่สอนกันมา แต่ไม่ว่าจะทำขนาดไหนมันก็ไม่ใช่ตัวเองแถมยังฝืนและรู้สึกไม่เคารพตัวเอง ผมจึงลองทดลองทำในแบบของตัวเอง ลดการบริการลง ทำความเข้าใจในความจำเป็นของลูกค้ามากขึ้น ปรับวิธีการนำเสนอ และเพิ่มคุณค่าด้วยการให้ข้อมูลในสิ่งที่ผมสนใจ เช่น ชวนลูกค้าเที่ยวต่างประเทศ ชวนลูกค้าศึกษาในของสะสม ชวนลูกค้าปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตหรือปรับธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยีมาช่วย สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผมสนใจอยู่แล้ว และนำมาใช้สร้างความแตกต่าง กลุ่มลูกค้าอาจแคบลงแต่ชัดขึ้น ได้กลุ่มลูกค้าที่มีวิธีการใช้ชีวิตที่คล้ายกับเรา การทำงานก็มีความสุขมากขึ้น” 

ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งกลยุทธ์และวิธีการของการสร้างแบรนด์ที่ที่ปรึกษาและนักวางแผนทางการเงินสามารถเรียนรู้และนำมาปรับใช้เพื่อสร้างและปรับปรุงแบรนด์ของตัวเองให้ดีขึ้นต่อไป ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือการที่เราต้องพัฒนาตัวเองและเสริมความรู้เพื่อก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ โดยอาจนำเครื่องมือทางการเงินในปัจจุบันมาปรับให้เหมาะกับการทำงาน เพื่อสร้างความเป็นมืออาชีพ เช่น การออกแบบเว็ปไซต์ที่ดูเป็นมืออาชีพ และมีการนำโปรแกรมวางแผนการเงินมาช่วยในการทำงาน เพื่อทำให้แบรนด์ดูมีความน่าเชื่อถือมืออาชีพมากขึ้น เป็นต้น 

“สุดท้ายนี้อยากฝากนักวางแผนการเงินรุ่นใหม่ว่า เราไม่ต้องเหมือนใคร พัฒนาตัวเองในทุกวันในจุดที่เราถนัด แสดงความมุ่งมั่นในการทำงาน ยึดติดที่เป้าหมาย และทำงานให้มีความสุข” คุณธนบูลย์ กล่าวปิดท้าย 

Contact: MDRTeditorial@teamlewis.com