Log in to access resources reserved for MDRT members.
  • เรียนรู้
  • >
  • วิธีการปรับใช้แบรนด์ส่วนตัวในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของคุณ
วิธีการปรับใช้แบรนด์ส่วนตัวในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของคุณ
วิธีการปรับใช้แบรนด์ส่วนตัวในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของคุณ

ธ.ค. 20 2565

วิธีการปรับใช้แบรนด์ส่วนตัวในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของคุณ

เรียนรู้วิธีสร้างแบรนด์ให้ตัวคุณเองในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและวิธีนำไปใช้ในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของคุณ

หัวข้อที่ครอบคลุม

ในยุคที่ผู้คนให้ความสนใจกับหลายสิ่งหลายอย่างรอบตัวและผลัดเปลี่ยนไปตามกระแสได้ง่ายอย่างในปัจจุบัน ความจำเป็นในการสร้างความประทับใจจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย และวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความประทับใจคือการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ส่วนบุคคลที่มั่นคงและน่าจดจำ การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลนั้นเกี่ยวกับการยืนหยัดในตัวคุณเองและการปฏิบัติของคุณเพื่อให้ได้รับความเคารพและความเชื่อมั่นจากเพื่อนร่วมงานและลูกค้าของคุณ 

เหตุใดการสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลจึงมีความสำคัญต่อที่ปรึกษาทางการเงิน 

คุณอาจถามตัวเองว่าทำไมที่ปรึกษาทางการเงินจึงต้องให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ส่วนตัว เนื่องจากที่ปรึกษาทางการเงินมีหน้าที่นำเสนอบริการต่าง ๆ เช่น การวางแผนการเงิน การจัดการการลงทุน การวางแผนภาษี และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่สิ่งที่ลึกซึ้งและมีค่าที่สุดที่คุณให้กับลูกค้าได้คือคำแนะนำทางการเงินส่วนบุคคล นั่นไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้โดยอัตโนมัติและจำเป็นต้องเชื่อมโยงกับตัวตนของคุณโดยตรง 

คุณเป็นคนเดียวในโลกที่สามารถให้คำแนะนำในแบบของคุณ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ส่วนบุคคลที่ทุกคนควรสร้าง ด้วยเหตุผลนี้ การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลที่นำเสนอตัวตนของคุณอย่างแท้จริงจึงเป็นส่วนสำคัญในการสร้างธุรกิจที่ปรึกษาที่ทำให้สามารถประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน 

วิธีปรับใช้แบรนด์ของคุณในชีวิตส่วนตัวและอาชีพของคุณ:  

1. พิจารณาตัวตนของคุณ 

ในการเริ่มต้นค้นหาแบรนด์ส่วนตัวของคุณ คุณต้องค้นหาตัวตนจากภายในตัวคุณเองก่อน เรียนรู้จากนักปรัชญาเช่นโสกราตีสและเพลโต เพื่อเริ่มกระบวนการการไตร่ตรองตนเองอย่างรอบคอบ หากคุณรู้สึกว่าคุณวิจารณ์ตัวเองไม่เก่งนัก คุณสามารถ ขอคำแนะนำจากเพื่อนและคนรอบข้างได้ เริ่มจากการส่งข้อความหรือโทรหาคน 10 คนที่ใกล้ชิดกับคุณที่สุดหรือคนที่คุณไว้ใจมากที่สุด แล้วถามพวกเขาว่าพวกเขาจะอธิบายคุณอย่างไรในสามคำ หากสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องดี คุณก็สามารถเรียนรู้จุดแข็งและความโดดเด่นของคุณ เพื่อที่จะเอาเอกลักษณ์ของคุณมาปรับใช้ในหน้าที่การงานของคุณได้ ส่วนคำติเชิงลบใด ๆ ก็สามารถช่วยให้คุณมีโอกาสเห็นจุดอ่อนละปรับปรุงตัวเองได้เช่นกัน 

2. ค้นพบสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่าง 

เมื่อคุณหาข้อดีข้อเสียจากการพิจารณาตัวตนของคุณ คุณก็สามารถกลับมาดูสิ่งเหล่านั้นเพื่อค้นหาจุดเด่นของตัวองได้ อย่างที่เรารู้กันดีว่า สโลแกนโปรดของนักการตลาดคงหนีไม่พ้น: ความแตกต่าง ย่อมดีกว่า ความเก่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องจริงสำหรับแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ส่วนตัวของคุณ คนทุกคนมีบุคลิกและเอกลักษณ์ที่ทำให้พวกเขามีความโดดเด่นเฉพาะตัว คุณต้องเข้าถึงคุณสมบัติเหล่านั้นให้ได้ เพื่อที่คุณจะสามารถขยายคุณสมบัติเหล่านั้นระหว่างการสื่อสารกับผู้อื่น และสร้างความน่าจดจำในที่สุด 

คุณธนบูลย์ วนาทรัพย์ดำรง สมาชิก MDRT ให้คำแนะนำว่า “ให้ลองถามคนที่สนิทใกล้ชิดกับคุณว่า หากคิดถึงคุณ พวกเขาเหล่านั้นคิดถึงอะไร สำหรับผมเมื่อสอบถามไปจากทั้งลูกค้าและเพื่อนสนิทได้คำตอบคล้ายกันว่า เป็นคนที่มีข้อมูลในหลายด้านและสอบถามได้ทุกเรื่อง ผมจึงนำเอาเรื่องนี้มาสร้างจุดเด่นเพื่อสร้างแบรนด์ของตนเอง” 

3. สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น 

ลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้มองหาพันธมิตรกับบริษัทยักษ์ใหญ่หรือบริษัทนิรนาม พวกเขาต้องการทำงานร่วมกับที่ปรึกษาที่ให้ความสัมพันธ์แบบส่วนตัวและใกล้ชิด ผู้คนต้องรู้สึกว่าพวกเขามีความสำคัญ การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นนอกเหนือจากชีวิตการทำงานและการเรียนรู้เกี่ยวกับลูกค้าของคุณสามารถช่วยสร้างความสัมพันธ์และความภักดีที่ยืนยาวได้ 

สมาชิก MDRT คุณพรพนิต เหลืองมณีรัตน์ แชร์วิธีสร้างความสัมพันธ์จากศูนย์ โดยกล่าวว่า “ต้องบอกว่า เราเริ่มจากคนที่ไม่รู้จักเลย ตอนนั้นลูกของเรากับเขาไปเรียนที่เดียวกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน แล้วลูกสนิทกัน จึงกลายเป็นโอกาสที่แม่นัดกัน เจอกัน ไปกิจกรรมต่าง ๆ ของลูก ไปค่าย Marine ที่ต้องไปต่างจังหวัด ไปค่ายธรรมะ หรือไปเรียนวาดรูป พอลูกทำกิจกรรม แม่ ๆ ก็จะมีเวลาคุยกัน ก็เลยทำให้เขาเปิดใจ สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และเป็นโอกาสที่ทำให้เขามีความไว้วางใจที่จะให้เราวางแผนการเงินให้กับครอบครัวเขา” 

4. ใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย 

โซเชียลมีเดียเป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดขาเข้าที่ทรงพลังในการสร้างแบรนด์ส่วนตัวของคุณได้ โดยบริษัทขนาดใหญ่ยังใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ในแง่ของการสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล การใช้กลยุทธ์นี้อาจง่ายกว่าอีกด้วยซ้ำเพราะมีความเป็นธรรมชาติและจริงใจมากกว่า ทั้งนี้อย่างที่เกริ่นมาเบื้องตันผู้คนสมัยนี้มักจะไว้วางใจผู้อื่นมากกว่าที่พวกเขาไว้วางใจหน่วยงานใหญ่ และในปัจจุบัน ประชากรโลกจำนวนมากกำลังใช้โซเชียลมีเดียกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะคนรุ่น หากคุณใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ คุณจะสามารถสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลที่แข็งแกร่งและเติบโตเมื่อเวลาผ่านไป ดึงดูดผู้ชมจำนวนมากขึ้น และรับประกันความสำเร็จในระยะยาวของคุณ 

ในที่สุดแล้วเหตุผลเบื้องหลังการสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลของคุณควรเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อให้ลูกค้าของคุณมีชีวิตที่ดีขึ้น การสร้างแบรนด์ส่วนตัวจะช่วยเปิดช่องทางให้ผู้คนเข้าถึงคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเหตุผลที่แท้จริงที่คุณต้องการให้คนอื่นพบคุณก็เพราะคุณเชื่อในความสามารถของคุณที่จะช่วยเหลือพวกเขา แนวคิดหลักของการบริการคือการรับใช้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือการให้คุณค่าผู้คนมากกว่าผลกำไร เมื่อคุณค้นพบเอกลักษณ์และจุดเด่นของตัวคุณเองและนำมันมาใช้เพื่อช่วยผู้อื่น ชื่อเสียงทางธุรกิจและการเติบโตของคุณก็จะตามมาในที่สุด ดังนั้นคุณควรรักษาตัวตนและความจริงใจของคุณในสื่อสารและสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น เพราะนั่นคือแบรนด์ส่วนบุคคลของคุณ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวตนของคุณที่คุณควรรู้สึกภาคภูมิใจ  

“ชีวิตส่วนตัว ครอบครัว ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต การท่องเที่ยว การเลี้ยงลูก การลงทุน ทุกอย่างที่ผมเลือกให้กับตัวเองและครอบครัว คือสิ่งที่สะท้อนแบรนด์ของผม การสร้างแบรนด์ทำให้การสื่อสารต่อกลุ่มลูกค้ามีประสิทธิภาพ และยังสร้างสกิลในการสร้างธุรกิจต่อยอดในการทำงานอื่นต่อไปได้ในอนาคต” คุณธนบูลย์ กล่าวปิดท้าย 

 

Contact: MDRTeditorial@teamlewis.com