แนวโน้มการลงทุนที่เกิดขึ้นใหม่ในประเทศไทยและวิธีที่ที่นักวางแผนการเงินสามารถใช้ประโยชน์ได้
หัวข้อที่ครอบคลุม
ไม่ว่าวัตถุประสงค์ในการลงทุนจะเป็นระยะสั้น หรือระยะยาว ตลาดหมีหรือตลาดกระทิง การเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงินนั้นไม่เคยหยุดอยู่กับที่ ภูมิทัศน์การลงทุนในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วพร้อมกับแนวโน้มการลงทุนใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบพาสซีฟไปจนถึงแพลตฟอร์มการลงทุนดิจิทัลแบบอัตโนมัติ และแม้แต่การลงทุนสกุลเงินดิจิทัล เป็นต้น
แนวโน้มการเติบโตของ Insurtech
Insurtech หมายถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมประกันภัย โดย Insurtech สามารถช่วยผลักดัน การจัดจำหน่าย และการบริหารธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีสำหรับธุรกิจประกันภัยเกิดใหม่และตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการเติบโตของรายได้อย่างมีนัยสำคัญอีกทั้งยังทำกำไรที่น่าดึงดูด
Insurtech ถูกพัฒนามาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชันและซอฟต์แวร์ โดยมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่อง ถึงขั้นที่แอพลิเคชัน Insurtech จะมีการใช้งานและพัฒนาเทียบเท่าแอพลิเคชันธนาคารในทศวรรษที่ผ่านมา ดังนั้น ที่ปรึกษาทางการเงินควรหาความรู้และอัปเดตแนวโน้ม Insurtech อยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะแนะนำแอปพลิเคทันดี ๆ ให้กับลูกค้า อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ Insurtech จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับที่ปรึกษาทางการเงินได้ แต่การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์เป็นสิ่งที่สำคัญมากในขอบเขตการให้คำปรึกษาทางการเงินเพราะการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทำให้เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรียนรู้มุมมองใหม่ ๆ และแก้ไขปัญหา แม้ว่า AI จะสามารถปรับปรุงการทำงานได้ แต่มันยังขาดความฉลาดทางอารมณ์และทักษะด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่จำเป็นสำหรับการโต้ตอบที่มีประสิทธิภาพ ดังในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินคุณควร ใช้เทคโนโลยี Insurtech ประหยัดเวลาการทำงานของคุณ อย่างเช่นการจัดการการเรียกร้อง และ การจัดจำหน่ายแบบอัตโนมัติ เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาไปเติมเต็มสิ่งที่เทคโนโลยีไม่สามารถทำได้เช่น สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าของคุณเป็นการส่วนตัว และการพบปะกับลูกค้าแบบตัวต่อตัว เป็นต้น
ยูนิตลิงค์ กำลังมาแรง
ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเป็นทางการในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม มีข้อบ่งชี้ว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะไม่มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะดำรงชีวิตในวัยเกษียณได้ 1จึงทำให้ ประชาชน โดยเฉพาะวัยทำงานหันมาใส่ใจกับการวางแผนทางการเงินมากขึ้น กลายเป็น Megatrend โดยเฉพาะในสภาวะเงินเฟื้อของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
หนึ่งในเทรนด์การลงทุนที่ได้รับความนิยมในวงการประกันภัยคือกรมธรรม์ประกันภัยยูนิตลิงค์ ซึ่งเป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองชีวิตและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวม โดยเบี้ยประกันที่จ่ายไปในครั้งแรก จะถูกนำไปจ่ายค่าใช้จ่าย 3 ส่วน คือ (1) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการประกันภัย (2) ค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ และ (3) ค่าการประกันภัย ซึ่งค่าใช้จ่ายในเดือนต่อ ๆ ไป บริษัทจะขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเพื่อนำมาจ่ายค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ไปจนตลอดอายุกรมธรรม์
เมื่อพูดถึงความนิยมของยูนิตลิงค์ในปัจจุบัน สมาชิก MDRT คุณสธนธร บวรธนสารกุล กล่าวว่า“ลูกค้ากลุ่มวัยเริ่มต้นทำงานสมัยนี้ เมื่อมีรายได้ พวกเขาก็เริ่มคิดที่จะแบ่งเงินมาวางแผนการเงินสำหรับอนาคตทันที ต่างจากพฤติกรรมของลูกค้าเมื่อก่อน ที่มักจะเริ่มต้นวางแผนเกษียณอายุในช่วงวัยใกล้เกษียณ นอกจากนี้ลูกค้าวัยเริ่มต้นทำงาน จะเรียนรู้ว่าผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนอย่าง ยูนิตลิงค์ ที่ช่วยให้พวกเขาเอาชนะเงินเฟ้อได้ (หรืออย่างน้อย ๆ ก็ไม่แพ้เงินเฟ้อ) ที่ถึงแม้จะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เตรียมแผนรับมือ ซึ่งหมายถึง ‘ไม่มีโอกาสชนะเลย’ เป็นต้น”
ค่าเงินบาทอ่อนเมื่อเทียบกับค่าเงินสหรัฐฯ
กองทุนต่างประเทศทั่วโลกเริ่มกลับเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ และออกจากตลาดตราสารทุนและตลาดตราสารหนี้ของไทย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ รวมทั้งเงินบาท2 สำหรับนักลงทุนในตลาดการลงทุนไทย การอ่อนค่าของเงินบาทอาจส่งผลให้เกิดแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากการถือเงินบาททำให้นักลงทุนต่างชาติขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน อีกทั้งยังอาจเผชิญแรงกดดันจากผลตอบแทนการลงทุนในประเทศอื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า
แม้ว่าค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะไม่ใช่สถานการณ์ที่น่าพึงประสงค์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน คุณสามารถให้คำแนะนำแก่ลูกค้าในการลงทุนอย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสภาวะตลาดในปัจจุบัน เช่น 1. ผู้ที่ลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศให้เลือกลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อลดผลกระทบหรือความกังวลใจจากการขึ้นลงของค่าเงิน และช่วยให้เราลงทุนกองทุนรวมต่างประเทศได้อย่างสบายใจมากขึ้น 2. ผู้ที่มีทองคำในพอร์ต ถือเป็นจังหวะขายทำกำไร แล้วเหลือไว้ในพอร์ตที่ 5-10% เพราะเมื่อเงินบาทอ่อนค่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3. ผู้ที่ลงทุนในตลาดหุ้นควรเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มส่งออก เช่น กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน อาหาร เพราะได้ประโยชน์จากการแปลงเงินดอลลาร์กลับมาเป็นเงินบาทที่มากขึ้น และหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มพลังงาน โรงไฟฟ้า ที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทอ่อนค่าเนื่องจากมีการกู้เงินสกุลเงินดอลลาร์มาใช้ เป็นต้น
บทบาทของคุณในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน
แนวโน้มการลงทุกและประกันภัย เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาแต่การตัดสินใจลงทุนนั้นอาศัยการวิเคราะห์และแยกแยะข้อมูลเชิงลึก ดังนั้นหน้าที่ของที่ปรึกษาทางการเงินคือให้ข้อมูลที่จำเป็นเพื่อให้ลูกค้าของคุณสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเกี่ยวกับการลงทุนของพวกเขา “หลายปีมานี้ มีลูกค้าเข้ามาปรึกษาเรื่องการลงทุนในคริปโตเคอเรนซีและดิจิตอลโทเคนกับผมเยอะมาก ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา ตลาดดังกล่าวมีการปรับตัวลดลงอย่างหนัก ผมจึงได้แนะนำผู้มุ่งหวังที่ต้องการลงทุนในตลาดดังกล่าวให้ลงทุนอย่างระมัดระวัง แต่ก็พบว่ามีผู้มุ่งหวังหลายรายลงทุนในตลาดดังกล่าวในสัดส่วนที่มากกว่าที่ได้ให้คำแนะนำไป ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้มักหมุนเวียนกลับมาเกิดขึ้นได้ทุกยุคทุกสมัย ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน เรามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจดจำเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ เพื่อคอยเตือนสติให้กับผู้มุ่งหวังและลูกค้าของเรา และในขณะเดียวกัน เราก็ควรนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันอื่นๆ เช่น ประกันบำนาญและสะสมทรัพย์ ให้แก่ลูกค้าในช่วงที่ตลาดการเงินผันผวนเช่นนี้” สมาชิก MDRT คุณ ปวินท์ ชินพฤทธิวงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ การลงทุนแต่ละครั้งมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณควรช่วยลูกค้าของคุณในการจัดการความเสี่ยงเพื่อให้แน่ใจว่าจะพวกเขาได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยสมาชิก MDRT คุณณัฏฐ์ ศุภณัฐกุลนันท์ กล่าวว่า “ความนิยมในการลงทุนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ต้องอาศัยการวิเคราะห์และการตัดสินใจที่ดีเพื่อควบคุมความเสี่ยงและสร้างผลกำไรให้มากที่สุด ดังนั้น การรับรู้แนวโน้มทางการลงทุนและการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดการเงินจะเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนทุกคนแต่การลงทุนนั้น ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และการศึกษาอย่างลึกซึ้ง การคาดหวังต้องการ High Return ย่อมต้องยอมรับ High Risk เช่นกัน อย่างไรก็ตามในทุกๆวิกฤติ ย่อมเกิดการเรียนรู้เสมอ จึงนับเป็นโอกาสที่ดีของจตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินทุกท่าน ที่ได้มีโอกาสเข้าพบ เพื่อ ทบทวนความรู้ความเข้าใจในการวางแผนการเงินที่ถูกต้องอย่างเป็นลำดับขั้นตอน”
“ด้วยพื้นฐานการจัดการด้านการเงิน 3 ประการ ที่อาจหลงลืมกันไป โดยจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทุกคนมุ่งเน้นไปที่ยอดปิระมิด คือเรื่องของการลงทุน คาดหวังว่าจะได้รับผลตอบแทนที่มากกว่า แต่หลงลืมไปว่า หากการลงทุนผิดพลาด โดยไม่จัดการด้าน Basic Needs และ Risk Management ซึ่งเป็นพื้นฐานชั้นล่างสุดขั้นแรกที่จำเป็นเสียก่อน นั่นก็คือ เรื่องของเงินฉุกเฉินสำรองอย่างน้อย 12-36 เดือน (สำหรับยุคนี้) การเก็บออมแบบผลตอบแทนน้อยและความเสี่ยงของการสูญเสียเงินก็น้อยเช่นกัน รวมถึงการทำประกันชีวิตเพื่อปกป้องความเสี่ยงด้านภาระหนี้สิน ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตที่คาดเดาไม่ได้” คุณณัฏฐ์ ศุภณัฐกุลนันท์ กล่าวให้คำแนะนำปิดท้าย
Contact: MDRTEditorial@teamlewis.com