การผสานความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเข้ากับแนวปฏิบัติสำหรับที่ปรึกษาทางการเงินในประเทศไทย
ความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นสำหรับตัวเลือกการลงทุนที่ยั่งยืน
หนึ่งในแรงผลักดันหลักในการนำความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการให้คำปรึกษาทางการเงินคือความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นสำหรับการลงทุนที่ยั่งยืน Global Sustainable Investment Alliance (GSIA) เปิดเผยว่าสินทรัพย์การลงทุนที่ยั่งยืนมีมูลค่าถึง 35.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลกในปี 2563 โดยเพิ่มขึ้น 15% จากปี 2561 นอกจากนี้ การสำรวจโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า 67% ของนักลงทุนไทยพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในการตัดสินใจลงทุน
การให้ความรู้แก่ลูกค้าเกี่ยวกับตัวเลือกการลงทุนที่ยั่งยืน
ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถมีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้แก่ลูกค้าเกี่ยวกับประโยชน์และโอกาสในการลงทุนที่ยั่งยืนได้อย่างไรบ้าง:
- การให้ข้อมูลที่ชัดเจน: ที่ปรึกษาควรนำเสนอข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับตัวเลือกการลงทุนที่ยั่งยืนต่างๆ รวมถึงตราสารหนี้สีเขียว โครงการพลังงานทดแทน และบริษัทที่มีแนวปฏิบัติ ESG ที่แข็งแกร่ง
- เน้นประสิทธิภาพ: เน้นผลการดำเนินงานระยะยาวและศักยภาพของการลงทุนที่ยั่งยืน การศึกษาพบว่าบริษัทที่มีหลักปฏิบัติ ESG ที่แข็งแกร่งมักจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าบริษัทอื่นๆ ในระยะยาว ตัวอย่างเช่น รายงานจากปี 2020 โดย MSCI พบว่าบริษัทที่เน้น ESG มีผลตอบแทนที่ดีกว่าและมีความผันผวนต่ำกว่าบริษัทที่ไม่ใช่ ESG เป็นต้น
- กลยุทธ์ที่เฉพาะเจาะจง: ที่ปรึกษาควรปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนและการยอมรับความเสี่ยงของลูกค้า
สมาชิก MDRT คุณณัฐพร พงศ์ประพันธ์ศิริกล่าวว่า “ในฐานะที่ปรึกษาการเงินต้องมีการวางแผน เพื่อบริหารจัดการทุกองค์ประกอบเพื่อลูกค้า การแลกเปลี่ยนความในมุมมองนี้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังแนะนำโอกาสในการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในตลาดประเทศไทยให้กับลูกค้าเช่น กลุ่ม ESG มีพูดคุยกันในเรื่องของ การใช้พลังงานไฟฟ้า เช่นการติดโซล่าเซลล์ เป็นต้น”
การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ยั่งยืน
อุตสาหกรรมการเงินในประเทศไทยกำลังเปิดรับและให้ความนิยมกับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ยั่งยืนและหลากหลาย ดังนั้นที่ปรึกษาควรใช้ประโยชน์จากข้อเสนอเหล่านี้เพื่อปรับปรุงบริการให้คำปรึกษาที่มุ่งเน้นความยั่งยืน:
- Green Bond: Green Bond ถือเป็นส่วนหนึ่งของ ESG Bond ซึ่งประกอบด้วย - Green Bond ตราสารหนี้สีเขียว หรือตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการระดมทุนเพื่อนำเงินไปใช้ในโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น โครงการพลังงานทางเลือก การบำบัดน้ำเสีย การคมนาคมสะอาด เป็นต้น
- กองทุนรวมที่ยั่งยืน: แนะนำกองทุนรวมที่เน้นบริษัทและโครงการที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ในประเทศไทย จำนวนกองทุนรวมที่ยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) เติบโต 28% ในปี 2564
- บริการธนาคารสีเขียว: การร่วมมือกับธนาคารที่นำเสนอบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น สินเชื่อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผลิตภัณฑ์การลงทุนต่าง ๆ ที่ส่งเสริมความยั่งยืน
การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและข้อมูล
เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมแนวทางการลงทุนที่ยั่งยืน ดังนั้นที่ปรึกษาทางการเงินสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนาความยั่งยืนของการให้บริการกับลูกค้าได้ดังนี้:
- แพลตฟอร์มความยั่งยืน: การใช้แพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูล ESG โดยละเอียดและการวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาด
- แอปพลิเคชันและเครื่องมือทางการเงิน: การใช้แอปพลิเคชันและเครื่องมือทางการเงินต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นที่การลงทุนที่ยั่งยืน โดยนำเสนอโซลูชันอัตโนมัติและคุ้มต้นทุนแก่ลูกค้า
- Blockchain เพื่อความโปร่งใส: สำรวจเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและตรวจสอบในการลงทุนที่ยั่งยืน
การปรับใช้แนวทางปฏิบัติในการให้คำปรึกษาที่ยั่งยืน
ในเชิงปฏิบัติ ที่ปรึกษาทางการเงินในประเทศไทยสามารถนำวิธีการต่างๆ มาใช้เพื่อผสานความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินงานในแต่ละวันได้โดยสมาชิก MDRT คุณเกร็ดแก้วมณี หวังวีระ กล่าวว่า “ดิฉันปรับรูปแบบการทำงานให้เข้ากับโลกปัจจุบัน ในด้านของสื่อสังคม ออนไลน์ เทคโนโลยี และเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม การประชุมแบบออนไลน์จะช่วยประหยัดเวลา ประหยัดน้ำมัน แต่ได้คุณภาพเนื้อหาการประชุมเหมือนเดิม การโทรศัพท์ผ่าน LINE VDO Call แบบ Face to Face ในการ ให้คำแนะนำปรึกษา หรืออัพเดทข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า การทำการตลาดออนไลน์ในการสื่อสารกับผู้คนด้วยช่องทาง Social Media ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น TikTok, Facebook และ LINE OA เป็นต้นเพื่อให้ลูกค้าหรือบุคคลทั่วไปเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ในด้านการวางแผนการเงินและข้อมูลเกี่ยวกับประกันชีวิตได้ง่ายขึ้น และสามารถเห็นภาพรวมการทำงานของอาชีพที่ปรึกษาทางการเงินได้มากขึ้นด้วย การทำงานในปัจจุบันมีการขายได้ทั้ง 2 รูปแบบคือ แบบเจอตัวและผ่าน Online โดยในปัจจุบันเอกสารการขายหรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์สามารถทำได้เกือบจะ 100% แล้วทำให้ลดการใช้กระดาษและเพิ่มความรวดเร็วในการทำงานได้มากขึ้น”
นอกจากนี้ คุณเกร็ดแก้วมณียังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเลือกการลงทุนที่ยั่งยืน “กรณีเลือกหุ้นการลงทุน ควรเริ่มต้นจากการวิเคราะห์และค้นหาหุ้นยั่งยืนว่ากิจการนั้น ๆ มีการจัดการประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลอย่างไร และการดำเนินการมีผลต่อตัวเลขทางการเงินในงบการเงินของกิจการด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างเช่น กิจการที่ดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดีจะมีความเสี่ยงโดนค่าปรับจากภาครัฐจากเหตุการณ์ทำลายสิ่งแวดล้อมลดลง หรือบริษัทที่ทำดีต่อสังคม พนักงาน และลูกค้า จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดกระแสสังคม สร้างประเด็นมาต่อต้านการบริโภคสินค้า และบริการลดน้อยลงเช่นกัน ดังนั้นนักลงทุนควรต้องตระหนักถึงการลงทุนอย่างยั่งยืน เลือกลงทุนในธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมคือการเลือกลงทุนในธุรกิจที่มีการดำเนินงานที่ยั่งยืนและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หรือธุรกิจโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ธุกิจอาคารสำนักงานที่ประหยัดพลังงาน หรือธุรกิจที่มีการก่อสร้างโดยใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น”
สมาชิก MDRT คุณณัฐพร พงศ์ประพันธ์ศิริ เน้นย้ำถึงขั้นตอนที่ดำเนินการในการปฏิบัติงานให้คำปรึกษาว่า "การทำงานโดยประชุมทีมผ่าน online เดือนละ 3 ครั้ง สามารถช่วยลดระยะเวลาเดินทาง ในส่วนของการทำงานบริษัทมี system application ที่สามรถลดการส่งกระดาษ หรือในกรณีที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนการใช้ APPLICATION สำหรับลูกค้าที่ง่าย สะดวก และสามารถลดขั้นตอนการใช้กระดาษได้เช่นกันซึ่งในส่วนของการพูดคุยกับลูกค้านั้นจะมีการเน้นย้ำเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืนที่จะแนะนำให้ลูกค้าตั้งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals ของตัวเองว่าเราต้องการเติบโตในอีกกี่ปี ด้วยเงินลงทุนเท่าไหร่ และมุ่งหวังแต่เติบโตไปในทิศทางใดหรือมากน้อยแค่ไหนที่เราจะไหวและไม่เบียดเบียนตัวเองมากเกินไป ทั้งหมดนี้ทำล่วงหน้าเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนควบคู่ไปกับการวิเคราะห์สภาพการเงินที่มีอยู่ปัจจุบัน รวมถึงการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างแท้จริงเพื่อให้ลูกค้าเติบโตอย่าง green ที่สุด ไปพร้อม ๆ กับการมีที่ปรึกษาที่ให้คำแนะนำและการพูดคุย online อย่างสม่ำเสมอเพื่อตอกย้ำความยั่งยืนตามเป้าที่ตั้งไว้"
การผสานความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเข้ากับแนวทางปฏิบัติในการให้คำปรึกษาทางการเงินไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์เท่านั้น แต่เป็นวิวัฒนาการที่จำเป็นในการตอบสนองต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทั่วโลก ด้วยการให้ความรู้แก่ลูกค้า การปรับใช้เกณฑ์ ESG การร่วมมือกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ยั่งยืน และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ที่ปรึกษาทางการเงินในประเทศไทยสามารถเป็นผู้นำในการส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยแนวทางนี้ไม่เพียงตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ แต่ยังวางตำแหน่งที่ปรึกษาในฐานะผู้นำที่มีความคิดก้าวหน้าในอุตสาหกรรมการเงินอีกด้วย
Contact: MDRTeditorial@teamlewis.com