เป็นเวลากว่า 20 ปีที่ David C. Blake เก็บข้อความไว้อาลัยของหนังสือพิมพ์ New York Times เกี่ยวกับซีอีโอของบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง “5% club”  ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทต่าง ๆ จะบริจาค 5% ของกำไรก่อนหักภาษีให้กับองค์กรการกุศลไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานด้านบนสุด

สมาชิก MDRT 25 ปีและประธานมูลนิธิ MDRT คนใหม่ท่านนี้ได้รับแรงบันดาลใจ และรู้สึกทึ่งกับความพยายามของผู้คนในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกและความอิ่มเอมใจที่ได้รับมาโดยตลอด ผู้ที่รู้จักการทำงานของ Blake จะตระหนักดีถึงของแนวคิดและ Impact ของเขาทั้งขอบเขตที่กว้างขวางและที่เป็นส่วนตัว

การทำความเข้าใจความเปราะบางของชีวิต

เมื่อย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของเส้นทางการกุศลของเขา Blake เล่าว่าเขากำลังมีชีวิตวัยเด็กที่สุขสบายและอยู่ในชนชั้นกลางขั้นสูง จนกระทั่งการล่มสลายอย่างกะทันหันของครอบครัวได้เปลี่ยนทุกอย่างในช่วงวัยรุ่นตอนปลาย หลังจากที่รู้จักแต่ความโชคดีและอนาคตที่สดใส ความสัมพันธ์รอบตัวเขาก็พังทลายลงและโอกาสทางการศึกษาก็หายไปในทันที ทันใดนั้น เขาก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนชีวิต ซึ่งเขาไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือมาก่อน

เขาต้องเลือกระหว่างการซื้ออาหารหรือจ่ายค่าทำความร้อน อดทนต่อสภาพแวดล้อมการทำงานและครอบครัวที่ไม่เป็นมิตร และขายสมบัติเพื่อหาเงินมาจุนเจือชีวิต สถานการณ์ที่ยากลำบากของเขาผลักดันให้เขาหันมามุ่งเน้นแต่การหาเงินเพื่อเลี้ยงดูภรรยาและลูกสาวที่เพิ่งคลอด จากนั้นเขาได้อ่านบทหนึ่งในหนังสือ “7 อุปนิสัยของผู้มีประสิทธิภาพสูง (The 7 Habits of Highly Effective People)” ของ Stephen Covey ซึ่งขอให้เขาจินตนาการว่าจะมีใครมาร่วมงานศพของเขาบ้าง Blake ตระหนักว่าคนเดียวที่จะมางานของเขาได้แก่เพื่อนร่วมงานและเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แค่นั่นจริง ๆ 

“ผมตระหนักว่าผมไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสมดุล” เขากล่าว “ผมจึงตั้งใจที่จะหาวิธีที่ดีกว่าและเริ่มเข้าร่วมการประชุม MDRT ซึ่งผมพบว่าตัวเองถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่สร้างแรงบันดาลใจ ผู้ซึ่งแสดงให้ผมเห็นว่าการเป็น ‘คนเต็มคน’ นั้นหมายถึงอะไร”

การเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับมูลนิธิ MDRT ในทันที เช่นเดียวกับสมาชิกหลายคน Blake รู้จักองค์กรนี้จากการนำเสนอของพันธมิตรการกุศลในระหว่างการประชุม MDRT ประจำปีเท่านั้น และหลังจากที่ได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วม MDRT Phonathon ในปี 2015 และได้รู้ว่าสมาชิก MDRT ทุกคนสามารถสมัครขอรับทุนได้ ทางออกที่ดีกว่าจึงเป็นรูปเป็นร่างขึ้นสำหรับ Blake

“การตระหนักว่าผมสามารถทำสิ่งนี้ได้ เป็นช่วงเวลาแห่งความเข้าใจอย่างกระจ่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผม” เขากล่าว “มันได้เปลี่ยนเส้นทางชีวิตของผมอย่างแท้จริง”

Blake ได้ช่วยจัดการขอรับทุนให้กับองค์กรชื่อ Friends of Firefighters ในทันที ซึ่งให้คำปรึกษาที่เป็นความลับแก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงในนิวยอร์กซิตี้ที่ต้องรับมือกับภาวะ PTSD จากเหตุการณ์ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ถล่มในเดือนกันยายน 2001 และเหตุการณ์บาดเจ็บอื่น ๆ จากการปฏิบัติหน้าที่ และการที่เขาพบว่าสามารถยื่นขอได้เพียงปีเว้นปีก็ไม่สามารถหยุดเขา Blake ได้เริ่มแนะนำสมาชิกท่านอื่นให้รู้จักองค์กรการกุศลและช่วยอำนวยความสะดวกในการขอรับทุนเพิ่มเติม ในแต่ละปี เขามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนองค์กรการกุศล 5-15 แห่ง และในช่วงหกปีที่ผ่านมา เขาได้ช่วยเหลือองค์กร 40-50 แห่งในห้าทวีปให้ได้รับทุน

ยังไม่หมดแค่นั้น การนำเสนอในการประชุม MDRT ได้เป็นแรงบันดาลใจให้เขากำหนดเป้าหมายส่วนตัวที่จะช่วยให้สมาชิก  MDRT ในทุกรัฐของสหรัฐฯ ยื่นขอรับทุน นั่นเป็นก่อนที่เขาจะตระหนักถึง Impact ระดับโลกของมูลนิธิ ดังนั้นเขาจึงขยายเป้าหมายนั้นไปทั่วทุกประเทศ ผลลัพธ์ที่ได้คือชุมชนที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องสำหรับ Blake ที่ซึ่งความคิดเชิงบวกและศักยภาพครองอำนาจ

“นั่นคือเหตุผลที่ผมรักครอบครัวมูลนิธิ MDRT ของผมมาก พวกเขาช่วยให้ผมกลายเป็นคนที่ผมต้องการเป็นมาโดยตลอด” เขากล่าว “ผมมีโอกาสที่จะสร้างความแตกต่างให้โลกด้วยการช่วยเหลือองค์กรการกุศล” 

ในงานของเขา Blake ช่วยให้โรงพยาบาลและสถานพยาบาลทั่วอเมริกามีประกันทุพพลภาพระยะยาวสำหรับแพทย์ที่กำลังฝึกอบรม เขายังทำงานเพื่อต่อสู้กับปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารในหมู่นักศึกษาแพทย์และในพื้นที่ที่เข้าถึงอาหารได้ยาก นอกจากนี้ เขายังสนับสนุนให้ลูกค้า เพื่อน MDRT และเพื่อนร่วมงานทางธุรกิจมีส่วนร่วมในโครงการริเริ่มด้านการกุศล นั่นคือเหตุผลที่เขาสร้างโครงการบริการชุมชนในท้องถิ่น และให้พนักงานของเขาลาหยุดโดยได้รับค่าจ้างเพื่อไปเป็นอาสาสมัครในองค์กรการกุศลที่พวกเขาเลือก 

Blake ยังได้ก่อตั้งองค์กรที่นำประสบการณ์ดนตรีบำบัดจากอูคูเลเล่ไปสู่ผู้คนในกลุ่มที่โดดเดี่ยวหรือผู้ที่ประสบกับเหตุการณ์สะเทือนใจทั่วสหรัฐฯ โครงการริเริ่มนี้เติบโตขึ้นจนนำดนตรีไปสู่โรงพยาบาลเด็ก ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และองค์กรที่สนับสนุนทหารผ่านศึกและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเหตุฉุกเฉิน Blake  ยังได้ทำงานร่วมกับตัวแทนรัฐบาลจากฮาวายและกระทรวงสาธารณสุขเพื่อนำเครื่องดนตรีนับร้อยชิ้นมาแทนที่ของเก่า  และจัดชั้นเรียนดนตรีรายสัปดาห์ให้กับชาวเกาะเมาอิที่ได้รับ ผลกระทบจากไฟป่าลาไฮนา 

“โลกที่ผมได้อาศัยอยู่คือฟองสบู่แห่งการกุศลที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องนี้” Blake กล่าว “มันเป็นแรงบันดาลใจและ ทำให้ผมรู้สึกนอบน้อม”

การเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในบทบาทใหม่ของเขา Blake ให้ความสำคัญกับการช่วยให้สมาชิก MDRT ตระหนักว่าการกุศลและโครงการ Global Grants ของมูลนิธิ MDRT เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนจิตวิญญาณแห่งการให้ การขยายเครือข่ายของมูลนิธิยังสามารถช่วยสร้างความตระหนักเกี่ยวกับมูลนิธิ MDRT และกระบวนการขอรับทุนสำหรับสมาชิกใหม่ การระบุวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากทรัพยากร MDRT และผู้สนับสนุนสมาชิกที่มีอยู่ ในขณะที่ทำงานร่วมกับช่องทางของคณะกรรมการการสื่อสารสมาชิก (MCC) และผู้นำของ MDRT สามารถช่วยเพิ่มการเข้าถึงและความตระหนักของมูลนิธิได้ 

เขามักจะพูดเสมอว่า “ผมเป็นแขกในบ้านของคุณ” เพื่อตระหนักว่าเป้าหมายของเขาคือการช่วยสร้างโอกาสที่มีคุณค่าเพิ่มให้กับผู้อื่น เขาวาดหวังเพียงว่าความกระตือรือร้นของเขาจะเป็นทรัพย์สินที่มีค่าและไม่รู้สึกว่าเป็นการก้าวก่าย หลังจากที่ใครบางคนได้ค้นพบสิ่งที่สร้างผลกระทบมหาศาลต่อชีวิตของพวกเขาแล้ว การที่พวกเขาจะรู้สึกตื่นเต้นกับมันก็เป็นเรื่องปกติ

“การให้ผู้อื่นและการทำงานเพื่อทำให้โลกเป็นที่ที่ดีขึ้นสำหรับ ผู้อื่นได้เปลี่ยน DNA ของผมไปตลอดชีวิต” Blake กล่าว  “Ted Rusinoff (สมาชิก MDRT 18 ปีและประธานมูลนิธิ MDRT ปี 2019) มักจะพูดเสมอว่า ‘วันที่มีความสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณคือวันที่คุณเกิดและวันที่คุณค้นพบว่าคุณเกิดมาทำไม’ ผมกำลังพยายามเพิ่มวันที่สามเข้าไปในนั้น นั่นคือ วันที่คุณเลือกที่จะทำอะไรบางอย่างกับสิ่งนั้น”